แม้ว่าประเทศไทยจะมีอัตรา "เด็กเกิดใหม่" ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุ ซึ่งในปี 2566 มีการคาดการณ์ว่าจะมี "เด็กเกิดใหม่" หรือประชากรวัยเด็ก 10.9 ล้านคน คิดเป็น 16.3% วัยแรงงาน 42.6 ล้านคน คิดเป็น 63.6% และวัยสูงอายุ 13.5 ล้านคน คิดเป็น 20.2% ทั้งนี้ โดยคาดการณ์ว่าในปี 2583 หากอัตราการเกิดยังคงลดต่ำลง สัดส่วนวัยเด็กจะมีเพียงร้อยละ 13.3 เท่านั้น
แต่ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กกลับมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีการแข่งขันที่สูงขึ้น จากข้อมูลพบว่า ตลาดแม่และเด็กที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2566 ด้วยมูลค่า 3,500 ล้านบาท (ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาบน้ำและแป้ง)
เนื่องจากเหล่าคุณแม่ยังคงใช้จ่ายสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก โดยพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่อย่าง GenX และ GenY ค่อนข้างมีความต้องการใช้ของพรีเมียม มีคุณภาพ และแบรนด์ติดตลาด เพื่อให้ลูกน้อยได้รับแต่สิ่งดีๆ นั่นเอง
ดังนั้นกลยุทธ์สำคัญของโอสถสภาคือ การเข้าใจความต้องการที่แท้จริงและเทรนด์ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ล่าสุด โอสถสภา จึงได้รีแบรนด์ ‘เบบี้ มายด์’ เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคุณแม่รุ่นใหม่ในทุกมิติและทุกเซกเมนต์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในฐานะผู้นำตลาด และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ Chief Home & Personal Care and Health Care Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ‘เบบี้ มายด์’ ในฐานะผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กของโอสถสภาที่อยู่คู่ครอบครัวคนไทยมาตลอดกว่า 30 ปี ภายใต้การเป็นเบอร์ 1 ผู้นำผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กตัวจริง ด้วยส่วนแบ่งตลาด 30.5%
ด้วยความเข้าใจถึงความต้องการของคุณแม่ที่มุ่งเน้นในการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกและต้องการให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีและเติบโตอย่างมีความสุข เบบี้ มายด์ จึงได้ปรับ Brand proposition ใหม่ “The Power of Gentle Touch” พลังสัมผัสอันอ่อนโยน สานสัมพันธ์ให้แข็งแรง เพื่อสื่อถึงความสำคัญของพลังสัมผัสอันอ่อนโยนของแม่จากการทำกิจวัตรประจำวันง่ายๆ ที่คุณแม่สามารถทำได้ทุกวัน เช่น การอาบน้ำ การทาแป้ง การนวดโลชั่นให้ลูก จะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกให้ดียิ่งขึ้น
โดยข้อมูลจากการวิจัยของบริษัท Hummingbirds Consulting ชี้ให้เห็นว่า คุณแม่ทุกเซกเมนต์ในไทยต่างเห็นตรงกันว่า การเลี้ยงดูแบบใหม่ ด้วยกิจวัตรประจำวันง่ายๆ ที่ให้การสัมผัสของแม่ช่วยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ที่ดีให้ลูกวัย 0-3 ปี นั้น มีส่วนช่วยส่งเสริมให้ลูกมีความพร้อมทางอารมณ์ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น เพื่อการเติบโตอย่างสร้างสรรค์ มีทักษะในการใช้ชีวิตที่ดีและมีความสุข เบบี้ มายด์ จึงต้องการปลุกกระแสคุณแม่ให้เห็นความสำคัญของการสัมผัส เพื่อเสริมสร้าง EQ ให้ลูกน้อย ผ่านแคมเปญ “The Power of Gentle Touch”
เพราะผิวเด็กมีความอ่อนแอและระคายเคืองง่าย นอกจากการเปลี่ยน Brand proposition ใหม่แล้ว เบบี้ มายด์ จึงได้พัฒนาปรับสูตรใหม่โดยเฉพาะ ด้วยสูตร “เอสเซ้นส์ออร์แกนิก 100%” ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก ปราศจากสารเคมีอันตรายที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวเด็ก 10 ชนิด ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญผิวหนังว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้ พร้อมพีเอช บาลานซ์ (pH Balance) ที่เหมาะสำหรับผิวเด็ก
รวมทั้ง เบบี้ มายด์ ได้ปรับลุคใหม่ของแพ็กเกจจิ้งให้ทันสมัย ปราศจากสาร PVC และสาร BPA พร้อมเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งของสบู่เหลวอาบสระ จากขวดพลาสติก PP เป็นขวดพลาสติกใส PET เพื่อความปลอดภัยและดีต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคุณแม่รุ่นใหม่
เพื่อตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเด็ก จึงครอบคลุมพอร์ตโฟลิโอทั้ง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อเจาะกลุ่มคุณแม่รุ่นใหม่ อายุ 25-45 ปี ที่มีลูกวัย 0-3 ปีทั่วประเทศ ตอบโจทย์ความหลากหลายของ คุณแม่ในทุกเซกเมนต์ ได้แก่ สบู่เหลวและแชมพูออร์แกนิก แป้งเด็กออร์แกนิก และเบบี้ออยล์ออร์แกนิก
รวมทั้งในครึ่งปีหลัง เบบี้ มายด์ จะจัดกิจกรรมการตลาดและสื่อสารเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อสร้าง Awareness ของแคมเปญใหม่ในวงกว้าง