ยันฮี คาดรายได้ปี 66 ปิดที่ 2 พันล้าน ต่างชาติใช้บริการ ธุรกิจน้ำวิตามินหนุน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ยันฮี คาดรายได้ปี 66 ปิดที่ 2 พันล้าน ต่างชาติใช้บริการ ธุรกิจน้ำวิตามินหนุน

Date Time: 3 ส.ค. 2566 17:19 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • โรงพยาบาลยันฮี ประเมินรายได้ปี 66 จบที่ 2 พันกว่าล้าน หลังต่างชาติ เช่น เมียนมา กัมพูชา และจีน ใช้บริการเพียบ ส่วนธุรกิจน้ำวิตามินเติบโตสูง พร้อมชิงแชร์ตลาดน้ำดื่มไทยกว่า 1,900 ล้าน

Latest


เมื่อวันที่ 3 ส.ค.66 นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวว่า เราให้บริการธุรกิจโรงพยาบาลมากว่า 38 ปี ซึ่งก่อนโควิดเรามีผู้ใช้บริการซึ่งเป็นชาวต่างชาติ 30% แต่พอเกิดโควิดก็ผู้ใช้บริการลดลงเหลือ 5% แต่ปัจจุบันมีต่างชาติกลับเข้ามาแล้ว 15% โดยส่วนใหญ่มาจากเมียนมาร กัมพูชา และจีน

ทั้งนี้ ยันฮีมีแผนบริหารงาน 3 ปี (2565-2567) โดยจะใช้งบกว่า 100 ล้านบาท ในการรีโนเวต และพัฒนาทั้ง 4 ตึกให้ทันสมัย ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี และเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะนำเข้ามาให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งปัจุบันยันฮีได้มีการเปิดศูนย์การแพทย์กว่า 37 ศูนย์ เช่น ศูนย์หัวใจ ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ และศูนย์ผู้สูงอายุยันฮี

นอกจากนี้ ยังมีการต่อยอดธุรกิจโรงพยาบาลไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เวชสำอาง สมุนไพร น้ำกัญชา และเครื่องดื่มผสมวิตามิน โดยภาพรวมปีนี้มองว่า กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลจะมีรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน ปิดที่ 2,000 ล้านบาท

ในส่วนของธุรกิจเครื่องดื่มวิตามินนั้น มีทั้งผลิตเอง และร่วมทุนกับทางบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีอยู่ 2 ผลิตภัณฑ์ คือ น้ำกัญชายันฮี และ ยันฮี แคลเชียม วอเตอร์ และผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดอีก 2 ตัว คือ แอลคานิทีน วอเตอร์ ซึ่งตัวนี้ยันฮีทำเอง ส่วนผลิตภัณฑ์อีกตัวจะเป็นการร่วมกับทางโอสถสภา

ทางด้าน ทพญ.สุชาวดี สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ และ บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันกระแสการดูแลสุขภาพถือเป็น Global Trend ที่มาแรง ผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ต่างให้ความสำคัญเพื่อนำมาซึ่งสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่ายและใช้ชีวิตได้อย่างที่ต้องการ จึงทำให้คนหันมามองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สุขภาพคนรุ่นใหม่ ที่มีชีวิตเร่งรีบ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่บริโภคได้ง่าย และหาซื้อได้ทั่วไปเป็นที่นิยม

ทั้งนี้ จึงส่งผลให้ตลาดน้ำดื่มสุขภาพบ้านเราคึกคักเป็นพิเศษ โดยตัวเลขรวมตลาดน้ำดื่มในไทยมีมูลค่าประมาณ 1,900 ล้านบาท ซึ่งแบ่งออกเป็นหลักๆ 3 Segment ได้แก่ น้ำดื่มธรรมดา, น้ำแร่ และน้ำวิตามินต่างๆ ซึ่งแบรนด์ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ ยังคงมีสัดส่วนอยู่ในอันดับต้นๆ ของตลาดในไทย

โดยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์ จัดอยู่ใน Segment ของน้ำวิตามิน และถือเป็นนวัตกรรมน้ำดื่มแคลเซียมเจ้าแรกในไทย บรรจุในขวดใสสะอาดขนาด 460 ml. วางจำหน่ายแล้วที่ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ และจะขยายสู่ช่องทาง Modern Trade อื่นๆ รวมถึงจะมีขนาด 350ml. ที่จะวางขายในช่องทางร้านค้าทั่วประเทศเร็วๆ นี้อีกด้วย

สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย เราทำการตลาดอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ทั้ง online และ offline โดยครึ่งปีหลัง จะเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับแคลเซียมผ่านแพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนใช้กลยุทธ์ Trial ด้วยการเปิดรับอาสาสมัครให้มาทดลองดื่มยันฮีแคลเซียมวอเตอร์ เพื่อสร้างความคุ้นเคยในตัวสินค้า และวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น

ทั้งยังเป็นการวัด Feedback ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีแผนจัดกิจกรรมต่างๆ ในรูปแบบ Sampling Activation สร้างการเข้าถึงยังกลุ่มเป้าหมายเพิ่ม ตลอดจนเน้นสร้างการรับรู้ของผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมให้ความรู้และชี้ให้เห็นความสำคัญของแคลเซียม

ล่าสุด เราได้เปิดรับอาสาสมัครที่มีช่วงอายุ 30 - 60 ปี เพื่อมาทดลองดื่มน้ำยันฮีแคลเซียมวอเตอร์ ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมวัดผลค่ามวลกระดูกก่อนและหลังดื่มน้ำแคลเซียมต่อเนื่องทุกวันเพื่อดูผลลัพธ์ สำหรับการเปิดรับอาสาสมัครในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่อยู่ภายใต้ โครงการเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง เราจะเปิดรับอาสาสมัครจำนวน 100 ท่าน ผ่านช่องทางออนไลน์

โดยเปิดรับอาสาสมัคร ตั้งแต่วันที่ 3-17 ส.ค. 66 ที่มีอายุระหว่าง 30-60 ปี โดยเราจะให้อาสาสมัครมาตรวจวัดมวลกระดูกฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่โรงพยาบาลยันฮี หากท่านใดมีค่ามวลกระดูกต่ำกว่ามาตรฐานกำหนด ทางยันฮีวิตามินวอเตอร์จะให้ทดลองดื่มยันฮีน้ำแคลเซียมวอเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน

ทั้งนี้ จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำอย่างใกล้ชิด จากนั้นจึงมาวัดผลค่ามวลกระดูกหลังดื่มน้ำแคลเซียมต่อเนื่องทุกวันเพื่อให้อาสาสมัครทุกท่านได้ทราบถึงค่ามวลกระดูกของตัวเอง และหาทางป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนในอนาคต นอกจากนี้ จะให้ทดลองดื่มยันฮีแคลเซียมวอเตอร์จริง ถือเป็นโอกาสให้ผู้บริโภคได้ทดลองดื่มผลิตภัณฑ์และวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นด้วย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ