โอกิลวี่ เอเจนซี่อันดับต้นของไทย ยกทัพทีมผู้บริหารชุดใหม่ นำทีมโดย จิรวรา วีรยวรรธน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กำพล ลักษณะจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์ และ ชาตรี โชคมงคลเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ เปิดวิสัยทัศน์ “สร้างอิมแพคเพื่อการสื่อสารอันทรงพลัง” พร้อมเผยอินไซด์น่าสนใจของตลาดโฆษณายุคหลังโควิดและหลังเลือกตั้งในครั้งนี้
นางจิรวรา วีรยวรรธน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โอกิลวี่ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ตลาดโฆษณาเริ่มส่งสัญญาณบวก ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากตัวเลขการบริโภคของผู้คนที่เพิ่มขึ้นและยอด Media Spending ที่พุ่งขึ้น 6% ในหมวดสื่อดิจิทัลและสื่อนอกบ้าน อีกทั้งแบรนด์มีความต้องการทำแคมเปญสื่อสารมากขึ้น เพื่อรักษาความสม่ำเสมอในการสื่อสารกับลูกค้า และยังเชื่อว่าการโฆษณาจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจ
พร้อมยกตัวอย่างเซนติเมนต์ที่พบว่ามีความต้องการสื่อสารมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมาอย่าง แคมเปญ IPO ที่เตรียมเสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์และต้องการสร้างการรับรู้ให้กับคนที่สนใจ โดยผลลัพธ์ของแคมเปญที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เช่น แคมเปญของบริษัท OR ในกลุ่ม ปตท. และไทยประกันชีวิต
สำหรับปีที่ผ่านมาธุรกิจในกลุ่ม Advertising Brand & Content เติบโตสูงสุดในสัดส่วนกว่า 50% โดยในปีนี้ โอกิลวี่ตั้งเป้าหมายเป็น Partnership for Growth ช่วยลูกค้าตอบโจทย์ด้านการสื่อสารกับผู้คนในยุคปัจจุบัน พร้อมรุกธุรกิจใหม่เพื่อสร้างการเติบโตให้บริษัท ได้แก่ ธุรกิจ Experience สร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมของลูกค้า ซึ่งจะร่วมมือกับ Verticurl หนึ่งในบริษัทย่อยของโอกิลวี่ที่เชี่ยวชาญด้านบริการเกี่ยวกับโซลูชันด้านการตลาด และธุรกิจ Health & Wellness
นางจิรวรา กล่าวเสริมว่า ภาพหลังเลือกตั้ง ความเข้มข้นของสิ่งที่แบรนด์จะสื่อสารแบรนด์ต้องเชื่อมโยงกับระดับมหภาค การถ่ายทอดสาร หรือแคมเปญต้องชัดเจนขึ้น โดยในกลุ่มคนรุ่นใหม่มองหาอะไรที่มีความหมายมากกว่าเดิมและมีหลายมิติ คาดหวังคุณค่าที่แบรนด์จะสร้าง แบรนด์ต้องสื่อสารว่าตนสร้างอิมแพคอะไรให้กับผู้คนและสังคม นอกเหนือจากการเติบโตของธุรกิจ
นอกจากนี้ยังเผยอินไซด์ที่น่าสนใจว่า ปัจจุบันคนมองหาแบรนด์ที่มีจุดยืนและรู้สึกว่าช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาดียิ่งขึ้นขึ้น โดยคนไทยกว่า 80% เชื่อว่าแบรนด์ต้องให้ความสำคัญกับ ความหลากหลาย (Diversity) ความเท่าเทียม (Equality) และความแตกต่าง (Inclusion) การตอบโจทย์การสื่อสารเพื่อสร้างสื่อโฆษณายุคนี้ ต้องมีวัตถุดิบมาจากความเข้าใจในประสบการณ์ ค่านิยมและวัฒนธรรมที่หลากหลาย แบรนด์ต้องเชื่อมโยงกับผู้คนอย่างใกล้ชิด เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายทั้งด้านการรับรู้ยอมรับของผู้คนและผลบวกต่อธุรกิจ
นายชาตรี โชคมงคลเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ โอกิลวี่ ประเทศไทย เปิดเผยว่า แบรนด์หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ดิ้ง มองกลุ่มเป้าหมายใหม่และอยากเข้าใจกลุ่มเป้าหมายตนเองมากขึ้นมากกว่าการสื่อสารเพื่อเพิ่มยอดขายอย่างเดียว เพราะปัจจุบัน ธุรกิจมีแนวทางการขายหรือการทำตลาดที่ไม่ต่างกัน โดยลูกค้าใช้งบโฆษณาในจำนวนเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นแต่มีความต้องการแนวทางการสร้างสรรค์ตัวงานที่มีมุมมองใหม่ขึ้นหลากหลายขึ้น
ทั้งนี้นายชาตรีได้นำเสนอแนวคิดในสร้างผลงานของโอกิลวี่ที่ช่วยตอบโจทย์ปัญหาของลูกค้าทั้งด้านการสื่อสารแบรนด์และผลตอบรับทางด้านธุรกิจ
ด้านนายกำพล ลักษณะจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์ โอกิลวี่ ประเทศไทย กล่าวว่า การนำมุมมองที่เกิดอิมแพคมาใช้ในการทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เกิดประสิทธิภาพด้านความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง วัดผลเป็นตัวเลขได้ชัดเจนจากทั้งยอดขาย, Brand Love และ Engagement
โดยนางจิรวรากล่าวเสริมว่า หัวใจของการสร้างโฆษณาในยุคนี้และในอนาคต คือ การทำงานสร้างสรรค์อย่างไร้ขอบเขต ต้องมีกระบวนการทำงานใหม่ๆ บนองค์ความรู้และสกิลที่หลากหลาย เพราะ ไอเดียไม่ได้มาจากกรอบการทำงานแบบเดิม รวมไปถึงเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยคนทำงาน ซึ่งโอกิลวี่ได้พิสูจน์ให้เห็นจากการคว้ารางวัลอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้คว้ารางวัล Grand Pix ระดับโลกในปี 2023 ด้วยกันถึง 3 รางวัล
ยกตัวอย่าง รางวัล Best of Discipline จากเวที ONE Asia Creative Awards จากผลงาน Googo Green – No Pests Allowed ที่ชาวเน็ตหลายคนชื่นชม และ รางวัล Grand LIA บนเวที London International Awards จากผลงาน Voiz - The Innocent Eyes และรางวัล Grand Prix บทเวที Spikes Asia Awards 2023 จากผลงาน IKEA – More Space