นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือเสนา เปิดเผยว่า ในปีนี้การติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) กลับมาได้รับความสนใจมากขึ้น และขณะนี้ราคาโซลาร์รูฟท็อปที่ถูกลง ทำให้ประชาชน เข้าถึงการติดตั้งโซลาร์รูฟได้มากขึ้น เพราะการติดตั้งใช้เวลา 7-10 ปีก็คุ้มทุน และภาครัฐมีโครงการโซลาร์ภาคประชาชนรับซื้อไฟฟ้าจากบ้านที่ติดโซลาร์รูฟท็อปแล้วเหลือใช้ ขายคืนสู่ ระบบในอัตรา 2.20 บาทต่อหน่วย
“บริษัทได้วิจัยพัฒนาแนวทางการลดพลังงานภายในที่อยู่อาศัย เพื่อก่อสร้างขายให้ลูกค้า โดยแบ่งผู้ที่ใช้ไฟฟ้าเป็น 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าสูง ที่บ้านพลังงานเป็นศูนย์ที่ติดโซลาร์จะลดค่าไฟฟ้าได้ 55% เมื่อเทียบบ้านทั่วไป 2.กลุ่มที่ใช้ไฟปานกลาง ที่ติดโซลาร์ลดค่าไฟฟ้าได้ 70% 3.กลุ่มที่ใช้ไฟน้อยที่ติดโซลาร์ลดค่าไฟฟ้าได้ 90% ซึ่งกลยุทธ์ของบริษัทปีนี้จะเน้นเจาะกลุ่ม ลูกค้าที่พักอาศัยในต่างจังหวัดและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และหัวเมืองรอง ที่มีศักยภาพเติบโตสูง อาทิ จังหวัดชลบุรี สระบุรี ลพบุรี อุดรธานี”.