BJC แต่งตั้ง "ฐาปณี เตชะเจริญวิกุล" ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ส่วน "อัศวิน เตชะเจริญวิกุล" ไปดำรงตำแหน่งบริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BRC ที่เตรียมเปิดขายไอพีโอเร็วนี้
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ประกาศแต่งตั้ง นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทฯ
โดยการขึ้นดำรงตำแหน่งครั้งนี้ของ นางฐาปณี นับเป็นการแต่งตั้งผู้บริหารหญิงคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งสูงสุดของ BJC ในรอบ 140 ปี หลังจากที่ได้มีบทบาทสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนธุรกิจของ BJC สู่ความสำเร็จในตำแหน่งกรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโสมาอย่างยาวนาน โดยกำหนดให้มีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. 66 เป็นต้นไป
ปัจจุบัน นางฐาปณี ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร กรรมการการลงทุน และเลขานุการคณะกรรมการสรรหา กำหนดค่าตอบแทน และกำกับดูแลกิจการ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ บริษัท ทีซีซี อินเตอร์เทรด จำกัด บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทีซีซี โฮลดิ้งส์ จำกัด อีกด้วย
อีกทั้งยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการนำกลุ่มบีเจซี และบิ๊กซี เข้าร่วมในกิจกรรมโครงการจิตอาสาพัฒนา เราทำความดี ด้วยหัวใจ และได้รับรางวัลสตรีนักบริหารภาคเอกชนดีเด่น ประเภทสถานประกอบกิจการขนาดใหญ่ ประจำปี 2557 และ 2561
ด้านการศึกษา นางฐาปณี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา และระดับปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ จากสถาบันเอ็มไอที หรือ MIT ประเทศสหรัฐอเมริกา
ขณะเดียวกัน นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ซึ่งเดิมเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ BJC จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BRC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BJC ตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ
นางฐาปณี กล่าวว่า แผนธุรกิจระยะยาว 5 ปี ระหว่างปี 2565-2569 ของ BJC จะใช้งบลงทุน 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นประมาณ 12,000-14,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมวางเป้าหมายเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตลอดจนถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนเพื่อตอบแทนสังคมไทย
โดย BJC มีผลงานที่แข็งแกร่งในหลายอุตสาหกรรม รวมถึงมีศักยภาพในการรองรับการ กระจายสินค้าและโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชีย ปัจจุบันกลุ่ม BJC มีจุดจำหน่ายสินค้ามากกว่า 236,000 สาขา ทั่วภูมิภาคเอเชีย อาทิ เมียนมา มาเลเซีย เวียดนาม จีน สปป. ลาว และ กัมพูชา เป็นต้น
สำหรับ BJC ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าและบริการครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีกลุ่มธุรกิจแบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก คือ
1. กลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ (Packaging Supply Chain)
2. กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค (Consumer Supply Chain)
3. กลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และทางเทคนิค (Healthcare & Technical Supply Chain)
4. ธุรกิจการค้าปลีกและการค้าส่ง (Modern Trade Supply Chain)
5. กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (Other business) โดยมีจำนวนพนักงานกว่า 54,000 คน ใน 6 ประเทศ ข้อมูล ณ เดือน มี.ค. 66
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา BJC ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าจะมีการแยกกลุ่มค้าปลีก บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BRC โดยจะมีการเปิดขาย IPO เร็วๆ นี้