โออิชิเผยผลประกอบการปี 2565 กำไร 1,199 ล้านบาท โตพุ่ง 120% จากปี 2564 ส่วนปี 2566 เตรียมเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ครั้งแรก และอัดงบการตลาดต่อเนื่อง
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI ผู้ทำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น กล่าวว่า ผลประกอบการโออิชิ กรุ๊ป ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง โดยปีงบประมาณ 2565 ของบริษัทฯ คือ 1 ต.ค.2564 - 30 ก.ย.2565 สามารถสร้างการเติบโตของธุรกิจให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
เนื่องจากการวางแผนงานและปรับกลยุทธ์ต่างๆ ให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถรับมือและเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์ที่เป็นปัจจัยลบต่างๆ ได้
ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 12,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,878 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตร้อยละ 29.3 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 7,292 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,042 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 16.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารอยู่ที่ 5,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,836 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 51.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ส่วนของกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 1,199 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 654 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตที่ระดับ 120% จากปีที่ผ่านมา ทั้งหมดเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นมากเป็นหลัก การฟื้นตัวของธุรกิจอาหารมีผู้บริโภคกลับมาใช้บริการร้านมากขึ้น การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพและควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม โออิชิมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ส่งต่อผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม ดีที่สุดให้กับลูกค้าเสมอมา โดยให้ความสำคัญด้านคุณภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง พิถีพิถันทุกขั้นตอน ตั้งแต่วัตถุดิบที่ถูกคัดสรรทุกองค์ประกอบตั้งแต่แหล่งผลิตได้มาตรฐานสู่โรงงานทันสมัย เพื่อสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม ชั้นเลิศสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในการส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพ
นางนงนุช กล่าวต่อว่า สำหรับธุรกิจเครื่องดื่ม โออิชิ กรีนที ยังคงครองแชมป์เจ้าตลาดชาพร้อมดื่ม มีส่วนแบ่งตลาด 48% หนึ่งในกลยุทธ์หลักขับเคลื่อนโออิชิ กรีนที คือ การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ โดยเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และขยายฐานผู้ดื่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพ
ล่าสุด เราได้สร้างเซกเมนต์ใหม่ ชาเขียวน้ำตาล 0% ตอบรับเทรนด์สุขภาพผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเล็งเห็นโอกาสต่อยอดธุรกิจเตรียมแผนและงบประมาณในสัดส่วนเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา ลุยตลาดผ่านการสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดใหม่ๆ ปลุกกระแสการดูแลสุขภาพ พร้อมตอกย้ำคุณค่าชาเขียว สร้างการรับรู้คุณประโยชน์ของคาเทชิน
สำหรับปี 2566 ธุรกิจเครื่องดื่มจะเดินหน้าขับเคลื่อนด้วย 4 กลยุทธ์หลัก คือ
1. สื่อสารประโยชน์ของชาเขียว สร้างการรับรู้คุณประโยชน์ของคาเทชินที่มีในชาเขียวโออิชิทุกขวด มีประโยชน์ต่อสุขภาพสูง
2. ขยายฐานกลุ่มวัยรุ่น เพิ่มมูลค่าให้กับบรรจุภัณฑ์เพื่อสร้างความผูกพันกับกลุ่มวัยรุ่น
3. ขยายเซกเมนต์น้ำตาล 0% สร้างการเติบโตให้กับสินค้ากลุ่มน้ำตาล 0% เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพ ซึ่งสินค้าที่เปิดตัวไปแล้วได้รับผลตอบรับที่ดี
4. ขยายตลาดส่งออก โดยเพิ่มความแข็งแกร่งในตลาดหลัก คือ กัมพูชา ลาว และพม่า ตลอดจนสร้างโอกาสการเติบโตในตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียน
นางนงนุช กล่าวถึงกลุ่มธุรกิจอาหารว่า จากการยกระดับมาตรฐานบริการและคุณภาพ หลังการผ่อนคลายมาตรการโควิด รวมทั้งแคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์และได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ควบคุมการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ธุรกิจอาหารปี 2566 มียอดขายเติบโต 51.5% และมีกำไรสุทธิเติบโต 121% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2564
ส่วนในปี 2566 เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนนั้น กลุ่มธุรกิจร้านอาหารยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น ด้วยการขยายสาขาและช่องทางการขายในรูปแบบ Multi Format และธุรกิจแฟรนไชส์เป็นครั้งแรก พร้อมเพิ่มความหลากหลายของช่องทางจำหน่ายแบบไร้รอยต่อ หรือ Omni Channel
รวมถึงการบริหารจัดการร้านอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมยกระดับมาตรฐานสินค้า บริการและคุณภาพด้วยการคัดสรรและเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ สะอาด สดใหม่ และได้มาตรฐานจากแหล่งผลิตชั้นนำทั่วโลก โดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องวัตถุดิบอาหารคุณภาพสูง ซึ่งหนึ่งในแหล่งนำเข้าที่สำคัญ คือ ตลาดโทโยสุ ตลาดปลาและอาหารทะเลชั้นนำที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
นางนงนุช กล่าวถึงธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทาน ว่า ปีนี้จะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมสินค้าอาหารสำเร็จรูป โดยชูจุดแข็งด้านรสชาติ คุณค่าโภชนาการและคุณภาพ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของฐานตลาดผู้บริโภคและยอดขาย
ประกอบกับการพัฒนาสินค้าทั้งกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และปรับเปลี่ยนตามกระแสความต้องการของผู้บริโภค หลังได้รับการตอบรับดีขึ้นมากๆ โดยโฉพาะตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เป็นต้นมา
ขณะที่แผนกลยุทธ์ในอนาคตโออิชิ กรุ๊ป คงมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจตามเป้าหมาย PASSION 2025 โดยสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ส่งเสริมให้มีการนำนวัตกรรมมาพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้นด้วยการออกสินค้าใหม่ๆ ที่สอดรับกับแนวคิดเรื่อง Health & Wellness ที่เป็นเทรนด์สำคัญในปัจจุบันและอนาคต ประกอบกับขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ด้วยการจัดกิจกรรมการตลาด
ตลอดจนผลักดันการเข้าถึงลูกค้าด้วยการขยายสาขาต่อเนื่องทั่วประเทศ และหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือ ยึดมั่นคุณภาพ พร้อมมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจไปพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เพื่อรักษาความเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน.