ซีพี เมจิ เผยหลังโควิดซา ยอดขายโยเกิร์ตถ้วยพุ่ง ปิดปี 2022 โตกว่า 9%

ซีพี-เมจิ เผยหลังโควิดคลี่คลาย ยอดขายโยเกิร์ตถ้วยพุ่ง ปิดปี 2022 โตกว่า 9% พร้อมส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ขยายตลาดโยเกิร์ตผลไม้

นางสาวอินทิรา มีสมานยนต์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด กล่าวว่า ช่วงสถานการณ์โควิดในปีช่วง 2020–2021 ที่ผ่านมาตลาดโยเกิร์ตถ้วยติดลบอย่างต่อเนื่อง แต่ในปี 2022 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นโดยตลาดกลับมาเติบโตเป็นบวกถึง 10%

อย่างไรก็ตาม เมจิ บัลแกเรีย นั้น เติบโตสวนทางกับตลาดมาแบบต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปี 2022 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่โยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย มีจุดยืนของแบรนด์ที่ชัดเจนในการเป็นโยเกิร์ตที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพ จึงตอบรับกันดีกับเทรนด์ผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจในสุขภาพกันมากขึ้น และมองหาสินค้าที่มีสูตรหรือสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

สำหรับภาพรวมตลาดโยเกิร์ตแบบถ้วยในประเทศไทย ปี 2022 มีมูลค่าตลาดรวมโดยประมาณอยู่ที่ 3,900 ล้านบาท เติบโตอยู่ที่ 10% โดยซีพี-เมจิ มีสัดส่วนการตลาดโยเกิร์ตถ้วยอยู่ที่ 20% โดยโยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรียมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 420 ล้านบาท และมีการเติบโตอยู่ที่ 9%

นางสาวอินทิรา กล่าวอีกว่า ล่าสุดเราได้ขยายตลาดเพื่อจับกลุ่มผู้บริโภคที่กว้างขึ้นในเซกเมนต์โยเกิร์ตผลไม้ที่มีสัดส่วนตลาดอยู่ถึง 70% จากตลาดโยเกิร์ตถ้วยทั้งหมด ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ โยเกิร์ต เมจิ บัลแกเรีย เซตโยเกิร์ต แอนด์ฟรุ๊ต ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เมจิ บัลแกเรีย เติบโตและขยายส่วนแบ่งการตลาดให้มากขึ้น

โดยปี 2566 นี้ คาดว่าเมจิ บัลแกเรียจะขยายตลาดได้กว้างมากขึ้น และจะเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้ตลาดโยเกิร์ตถ้วยในปี 2566 เติบโตได้มากกว่า 10% และทำให้คนไทยหันมาทานโยเกิร์ตเพื่อสุขภาพกันมากขึ้นอย่างแน่นอน ตามความตั้งใจและค่านิยมของเมจิ ที่ต้องการเพิ่มคุณค่าด้านสุขภาพให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามโยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรียที่ได้เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2556 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคในหลากหลายกลุ่มเป้าหมาย สร้างปรากฏการณ์การตามหาโยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรียจนหมดเชลฟ์ และได้รับการตอบรับอย่างดีมาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปีอีกด้วย