ผู้บริโภคไทยน่าจะรู้จักและคุ้นเคยกับแบรนด์มูจิ (Muji) บริษัทค้าปลีกประเทศญี่ปุ่นจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ และอาหาร เป็นต้น กับจุดขายที่แข็งแกร่งคือการออกแบบที่มีคุณภาพพร้อมความสวยงามแบบมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่นในราคาสมเหตุสมผล
หนึ่งในกลยุทธ์ความสำเร็จของ Muji ก็คือการไม่มีแบรนด์ติดในตัวสินค้า ดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งในตลาดที่เบื่อกับการบริโภคนิยมและต้องการทางเลือกที่สดชื่นแทนสินค้าแบรนด์ดั้งเดิม ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่จำกัดให้น้อยที่สุดและจำกัดสีธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทดูสวยงามดึงดูดใจผู้บริโภค
สำหรับในตลาดประเทศไทย Muji ได้ร่วมทุนกับทางกลุ่มเซ็นทรัล ดูเหมือนว่า Muji ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ปัจจุบันมี 29 สาขา แต่ด้วยปัญหาหลักก็คือสินค้าที่จำหน่ายในตลาดประเทศไทยมีราคาสูง ซึ่ง Muji เองพยายามทำราคาลงอย่างต่อเนื่อง
แต่จนถึงขณะนี้ผู้บริโภคชาวไทยยังมีความรู้สึกว่าราคาจำหน่ายยังคงสูงอยู่ อีกทั้งสถาน การณ์แข่งขันในตลาดมีความรุนแรงมากขึ้น ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นยังส่งผลให้ Muji ประเทศไทยจำเป็นต้องพลิกปรับโมเดลธุรกิจครั้งใหญ่ทั้งการปรับสโตร์ให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้นให้ประสบการณ์เหมือนกันไปช็อปปิ้งที่สโตร์ในประเทศญี่ปุ่น
พร้อมกับการเพิ่มโซนใหม่จำหน่ายสินค้าราคาต่ำกว่า 300 บาท เพิ่มช่องทางการขายทั้งออนไลน์ออฟไลน์ไปพร้อมกับกลยุทธ์ปรับราคา และการนำสินค้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์กับตลาดอาเซียนที่ไม่มีจำหน่ายในญี่ปุ่นมาจำหน่าย เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและสร้างการรับรู้ว่าแบรนด์ Muji จำหน่ายสินค้าในราคาจับต้องได้ไม่แพงอย่างที่คิดกัน
นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทาง Muji ได้ปรับพื้นที่ในสโตร์ให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์เหมือนการเดินในสโตร์ที่ประเทศญี่ปุ่นตามคำเรียกร้องของผู้บริโภค โดยได้เริ่มที่สาขาสามย่านมิตรทาวน์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 2,000 ตารางเมตรพร้อมสินค้าหลากหลายและบริการครบครัน
สำหรับสาขาใหม่ Muji เซ็นทรัล ชลบุรี ได้เปิดเป็นสาขาใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกบนพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร และสาขาล่าสุดที่โรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ นนทบุรี เป็นโมเดลโรดไซด์ หรือร้านรูปแบบใกล้ริมถนน สาขาแรกที่เปิดกับศูนย์การค้าขนาดใหญ่ติดถนน ออกแบบร้านให้เป็น 2 ชั้น บนพื้นที่ 1,700 ตารางเมตร พร้อมสินค้ากว่า 3,000 รายการ
นายคาโมการิกล่าวว่า Muji โรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ ยังเป็นสาขานำร่องเปิดโซนขายสินค้าราคาต่ำกว่า 500 เยน ซึ่งเพิ่งเป็นโมเดลใหม่เปิด ณ บริเวณสถานี รถไฟมิทากะ กรุงโตเกียว ในประเทศญี่ปุ่นและประสบความสำเร็จ โดยรวบรวมสินค้าคุณภาพดีราคาต่ำกว่า 100 บาท 200 บาท และ 300 บาท ในหลากหลายหมวดหมู่ ช่วยให้ Muji เข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทย ที่ต้องการซื้อสินค้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและมากขึ้น
“การขยายเข้ามาในทำเลราชพฤกษ์เป็นศูนย์รวมที่พักอาศัยระดับบนไปจนถึงระดับกลาง แหล่งรวมผู้บริโภคกำลังซื้อสูง เนื่องจากไม่แออัด สงบ สภาพแวดล้อมและอากาศดี ราคาที่ดินไม่สูงเมื่อเทียบกับเขตกรุงเทพฯชั้นกลาง-ชั้นใน การเดินทางเชื่อมโยงเข้าใจกลางเมืองหรือออกนอกเมืองสะดวก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ต้องเข้าเมือง”
สำหรับแผนการขยายสาขาต่อไปตั้งเป้าจะขยายสโตร์เพิ่มอีก 10 สาขาภายในเวลา 2 ปี จะขยายไปตามศูนย์การค้าที่มีขนาดเล็กลง เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในชุมชนต่างๆ ได้มากขึ้น ขณะที่โมเดลธุรกิจใหม่ๆ จะทำให้ผู้บริโภคคนไทยมีโอกาสเข้าถึงสินค้าของ Muji ได้มากขึ้นได้ใช้สินค้าสไตล์มินิมอลในราคาที่จับต้องได้.
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th