โออิชิ ปรับโฉมบุฟเฟต์ OISHI GRAND สาขาสยามพารากอน เน้นปรุงอาหารแบบจานต่อจานคงความสดใหม่ บุฟเฟต์ซูชิระดับโอมากาเสะ และซาชิมิ ชิ้นโต เพิ่มเมนูจากเดิม 120 เมนูเป็น 200 เมนู
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI กล่าวว่า จากการทำคอนซูเมอร์อินไซด์ เราพบว่าตั้งแต่การระบาดของโควิดจนมาถึงปัจจุบันที่มีการคลายล็อกดาวน์ และโควิดได้กลายเป็นโรคประจำถิ่นนั้นเราพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพ และเน้นทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น แน่นอนว่าอาหารญี่ปุ่นก็จัดอยู่ในความสนใจนั้นด้วย
นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังสนใจเรื่องของ Sustainable หรือความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการ Zero Food Wast มากขึ้น เรื่องราวนี้ โออิชิ กรุ๊ป ก็ให้ความสนใจมาหลายปีแล้ว ประกอบกับเราได้มีการปรับโฉมร้านโออิชิ แกรนด์ หรือ OISHI GRAND ที่สาขาสยามพารากอน โซน ฟู้ด พาสสาจ ชั้น 4 จึงได้นำทั้งสองอย่างมาเป็นโจทย์สำคัญในการปรับปรุงร้าน
ทั้งนี้ OISHI GRAND จะเน้นวัตถุดิบคุณภาพ สะอาด สดใหม่ ที่ครบครัน และหลากหลายกว่าที่เคย โดยเราจัดเต็มทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม อร่อย ครบรส จบในร้านเดียว ขณะเดียวกัน เรายังได้ผสานการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเป็นส่วนหนึ่งของการบริการอย่าง ระบบการสั่งอาหารอัตโนมัติผ่านคิวอาร์โค้ดด้วยแท็บเล็ต ณ จุดให้บริการภายในร้าน หรือโทรศัพท์มือถือส่วนตัว เป็นต้น
"ไฮไลต์ที่สำคัญของ OISHI GRAND คือ การปรุงประกอบอาหารแบบจานต่อจานในลักษณะ Made-to-Order ด้วยความพิถีพิถัน และใส่ใจ เพื่อคุณภาพและความสดใหม่ของอาหาร ซึ่งมีส่วนช่วยลดการสูญเสียอาหาร หรือ Food Loss และขยะอาหาร หรือ Food Waste โดยเปล่าประโยชน์ รับเทรนด์การบริโภคอาหารแบบยั่งยืนอีกด้วย"
นางนงนุช กล่าวอีกว่า จากการอินไซด์กับคนรุ่นใหม่ เราพบว่าลูกค้าอยากเห็นความวาไรตี้ของเมนูเราจึงปรับจาก 120 เมนู เป็น 150-200 เมนู โดยเน้น Made-to-Order ทำสดใหม่ แต่ไลน์อาหารบุฟเฟต์ที่ให้ลูกค้าเลือกเดินไปหยิบยังคงมีอยู่ แต่ไม่มากเท่าเดิม เพราะอยากให้ลูกค้าได้ทานของที่ทำใหม่ๆ ตลอดเวลา
นอกจากนี้ OISHI GRAND ยังได้แก้ปัญหาเรื่องที่นั่งให้มีตอบโจทย์ลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มให้มากขึ้น นั่งสบายขึ้น และนั่งเป็นกลุ่มได้สะดวกยิ่งขึ้น สำหรับการขยายสาขานั้นเราก็จะเพิ่มอีกหนึ่งโลเกชันคือ วันแบงค็อก ในอนาคต
"เรามองว่าเทรนด์อาหารญี่ปุ่นยังมีอยู่ และมีการเติบโตที่ชัดเจน แม้ช่วงหลังโควิดมาจะยังมีการเติบโตไม่เท่าเดิม แต่เทรนด์ที่กำลังจะมา คือ กลุ่มแมส น่าจะเป็นโอกาสที่เติบโต ส่วนกลุ่มพรีเมียม ตอนนี้เติบโตเกิน 100% แล้ว จากอินไซด์เราที่พบ ลูกค้าอยากทานของที่ดีเพื่อสุขภาพ ไม่เกี่ยงราคา ซึ่งเป็นผลมาจากการดูแลตัวเองช่วงโควิด ส่วนเดสติเนชันโลเกชันที่เป็นกลุ่มพรีเมียมนั้นยังมาไม่ครบ เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่กลับมา 100% แต่ถ้าปี 66 เรามองว่าจะเติบโตขึ้น 4 เท่า แต่ไม่เท่ากับก่อนเกิดโควิด"
สำหรับบริการแบบบุฟเฟต์ของ OISHI GRAND มี 3 ระดับ โดยแต่ละระดับนั้นสามารถใช้บริการและรับประทานอาหารได้ไม่จำกัด ภายในระยะเวลาถึง 2 ชั่วโมงเต็ม ดังนี้
- ระดับ PREMIUM Buffet : อิ่ม ฟิน ไม่อั้น กับซูชิระดับโอมากาเสะ และซาชิมิ ชิ้นโต เต็มคำ พร้อมอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ เมนูยอดนิยมต่างๆ รวมกว่า 140 รายการ ในราคาท่านละ 1,059 บาท++
- ระดับ PLATINUM Buffet : อิ่ม ฟิน ไปอีกขั้น กับซูชิระดับโอมากาเสะ และซาชิมิ ชิ้นโต เต็มคำ พร้อมอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ เมนูยอดนิยมต่างๆ เพิ่มเติมด้วยเมนูพิเศษระดับแพลตทินัม อาทิ ซูชิโฮตาเตะย่างซอสอูนิ ยากินิคุเนื้อวากิว หอยเชลล์ซอสมิโสะย่างใบโฮบะ ฯลฯ รวมกว่า 190 รายการ ในราคาท่านละ 1,659 บาท++
- ระดับ PRESTIGE Buffet : อิ่ม ฟิน ขั้นสุด กับซูชิระดับโอมากาเสะ และซาชิมิ ชิ้นโต เต็มคำ พร้อมอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ เมนูยอดนิยมต่างๆ เพิ่มเติมด้วยเมนูพิเศษระดับเพรสทิจ อาทิ ซูชิชูโทโร่คาเวียร์ กุนกันอูนิเนกิโทโร่คาเวียร์ ยากินิคุเนื้อวากิวญี่ปุ่น A4 ฯลฯ รวมกว่า 200 รายการ ในราคาท่านละ 2,659 บาท++