ล้อพูนผลไรซ์มิลล์ ทุ่ม 350 ล้าน ยกระดับข้าวแบรนด์บัวชมพู ลุยขายทั่วไทย

ล้อพูนผลไรซ์มิลล์ ผู้ผลิตข้าวจากนครสวรรค์ ทุ่ม 350 ล้าน ยกระดับข้าวแบรนด์ บัวชมพู เล็งตั้งนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ใช้นวัตกรรมพัฒนาสินค้าเกษตรครบวงจร

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา นายถวิล ล้อพูนผล ประธาน บริษัท ล้อพูนผลไรซ์มิลล์ จำกัด กล่าวว่า เราได้ทำธุรกิจโรงสีข้าว ผลิตแปรรูป รวมถึงจัดจำหน่ายข้าวสารอย่างครบวงจร ภายใต้แบรนด์บัวชมพู เมื่อปี 2547 ที่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์

ทั้งนี้ เราได้วิจัยและพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์จากข้าว สร้างมูลค่าเพิ่มและประโยชน์เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค โดยเราได้ใช้งบลงทุนกว่า 350 ล้านบาทเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตข้าวให้ทันสมัย รวมถึงใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

ล่าสุดเราพร้อมกระจายข้าวแบรนด์บัวชมพู ไปทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกช่องทางจำหน่าย ด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้ได้มาตรฐานตาม Food Grade

เช่น มีโกดังเก็บข่าวที่ทันสมัย ถังไซโลที่ควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาคุณภาพของข้าว และยังนำระบบ ERP มาใช้ในการบริหารจัดการ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคและบริหารสินค้าคงคลัง สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ข้าวไทย

นายถวิล กล่าวว่า สำหรับข้าวสารแบรนด์บัวชมพู มียอดจำหน่ายรวมกว่า 1,700 ล้านบาท และปี 65 นี้คาดว่าจะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% โดยข้าวสารของเรายังได้รับรางวัลระดับโลก Superior Taste Award 2021 จาก International Taste Institute ที่ได้รับการโหวตจากเชฟร้านอาหารติดดาวมิชลินกว่า 20 ในยุโรป

รวมถึง รางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวพื้นแข็ง ปี 2564 จากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และรางวัลชนะเลิศ World’s Best Rice 2016 ปัจจุบัน ข้าวสารตราบัวชมพู มีวางจำหน่ายที่แม็คโคร บิ๊กซี กูร์เมต์ มาร์เก็ต และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่เรามีอยู่ เราได้ลงทุนโรงงานผลิตน้ำมันรำข้าว ภายใต้บริษัท แอลพีพี ไรซ์ บราน ออยล์ จำกัด มีกำลังการผลิต 300 ตันต่อวัน และเริ่มส่งออกไปญี่ปุ่นในปีนี้เป็นปีแรก

รวมทั้งเตรียมจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกษตรแบบสมาร์ทแห่งแรกของประเทศไทย บนพื้นที่ 650 ไร่ ที่นครสวรรค์ โดยพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรแปรรูปอย่างครบวงจรด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรของไทย

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องด้านการเกษตรอย่างต่อเนื่อง ทั้งโรงผลิตและวิจัยน้ำมันกัญชา โรงสกัดน้ำมันรำข้าวดิบ ที่มีกำลังการผลิต 600 ตันต่อวัน ด้วยงบลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท การตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 20 เมกะวัตต์ และโรงกลั่นน้ำมันบริสุทธิ์ ที่จะใช้งบลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแผนลงทุนต่อเนื่องในช่วง 8 ปีข้างหน้า หรือ ภายในปี 2573 อีกด้วย