“บทสรุป” จากงาน “SX 2022” ประเทศไทย “พร้อม” เดินหน้า

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“บทสรุป” จากงาน “SX 2022” ประเทศไทย “พร้อม” เดินหน้า

Date Time: 4 ต.ค. 2565 05:40 น.

Summary

  • เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมแว่บไปเที่ยวงาน “SX 2022” หรืองาน “Sustainability Expo 2022” มหกรรมการแสดงสินค้าและนวัตกรรมด้านการพัฒนา เพื่อความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

Latest

อัปเดต 5 กลยุทธ์ขายของ พิชิตใจคน Gen Z อยากรักษ์โลก แต่ของมันต้องมี แบรนด์รับมืออย่างไร?

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมแว่บไปเที่ยวงาน “SX 2022” หรืองาน “Sustainability Expo 2022” มหกรรมการแสดงสินค้าและนวัตกรรมด้านการพัฒนา เพื่อความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์มาเรียบร้อยแล้วครับ

ได้พบกับความประทับใจอะไรหลายๆอย่างจากงานนี้ ขออนุญาตนำมาบันทึกไว้เพื่อเป็นเกียรติและขอบคุณคณะผู้จัดงานอีกครั้ง

ในข่าวประชาสัมพันธ์มีอยู่ประโยคหนึ่งว่า งานนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือของบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ จีซี, บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ปฯ, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCG) และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รวม 5 องค์กรหลักด้วยกัน

แต่เมื่อไปเดินในงานแล้วก็พบว่ากว่า 70 เปอร์เซ็นต์ น่าจะเป็นฝีมือและงบประมาณของ บริษัท ไทยเบฟฯ ผู้ได้รับโอกาสในการก่อสร้าง และขยายเพิ่มเติมศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งได้สิทธิในการบริหารต่อไปอีก 50 ปี จากสัญญาเดิม 25 ปีนั่นเอง

เพราะเกือบทุกจุดของงานจะมีผู้บริหารระดับสูงลงมาถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆของไทยเบฟฯยืนดูแลและให้บริการเต็มไปหมด รวมทั้งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คุณ ฐาปน สิริวัฒนภักดี ที่ไปยืนรับและตามส่ง พระเมธี วชิโรดม หรือท่าน ว.วชิรเมธี ที่มาเทศนาพิเศษเรื่องการ “บวชป่า” เมื่อช่วงบ่ายแก่ๆวันเสาร์ที่แล้วนั้นด้วย

ถ้าจะให้ขอบคุณเป็นเบื้องต้นก็คงต้องขอบคุณ บริษัท ไทยเบฟฯ นี่แหละครับ ที่จริงจังมากกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน และได้ประกาศจุดยืนในการร่วมดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างหนักแน่นมาโดยตลอด รวมทั้งการเป็นโต้โผจัดงานนี้ซึ่งเป็นปีที่ 3 แล้ว

ขณะเดียวกันก็ขอขอบคุณกระทรวงทบวงกรมที่มาร่วมงาน และได้นำผลงานด้านการควบคุมดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมกับการสร้างจิตสำนึกแก่คนรุ่นหลังไปด้วยมาแสดงอีกหลายกระทรวง

เท่าที่จำได้ก็มีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ

ไม่เพียงแต่จะจัดโซนและจัดบูธสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น ยังมี KIDS ZONE...ซึ่งจะนำทั้งนิทรรศการรูปแบบง่ายๆมาให้เด็กดูชม และกิจกรรมที่เด็กๆสามารถมีส่วนร่วมเข้าไปลงมือคิด ลงมือทำด้วยตนเอง...มีเด็กๆเข้าร่วมแน่นโซนอย่างน่าชื่นใจเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว

ส่วนโซนที่แน่นที่สุด ขายดีที่สุด ยกให้โซนอาหาร หรือ Food Festival รวมอาหารจากรายการเชฟกระทะเหล็ก และร้านอาหารชั้นนำ ติดอันดับท็อปมาเสนออาหารทั้งปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะอาหาร รักษ์โลกและอาหารสุขภาพต่างๆกว่า 100 ร้าน

แต่อาหารยุคปัจจุบัน เช่น ข้าวมันไก่มณเฑียร, หมูทอดเจ๊จง, บ้าบิ่น “ป้าบุ๋ม” (แชมป์เข้าคิวรองานนี้ 35 นาทีจึงจะได้ซื้อ) และคอหมูย่าง ในตำนาน “เจ๊แดง” ฯลฯ ยังคงได้รับความนิยมมากที่สุด

จุดเด่นของ โซนอาหาร ที่หลายๆคนอาจจะลืมสังเกตก็คือการสาธิตวิธีกำจัด “ขยะอาหาร” และ “เศษอาหาร” จากผู้คนที่ไปนั่งกินในงานนั่นแหละที่เขาเอามาแสดงให้เห็นสดๆที่มุมหนึ่งของโซนนั่นเอง

เห็นภาพทั้งหมดทั้งมวลแล้วก็เบาใจลงเยอะเลยครับที่แกนหลักของประเทศไทย ทั้งภาครัฐภาคเอกชนยังคงเดินหน้าทำงานอย่างหนักในหน้าที่ของแต่ละคนเพื่อการพัฒนาอย่างไม่ย่อท้อ

ค่ำวันเสาร์เช่นกัน ผมดูโทรศัพท์มือถือระหว่างกลับบ้านได้รับรายงานว่า มีการชุมนุมประท้วงกรณี “บิ๊กตู่” ได้อยู่ต่อ ถึงขั้นมีการยิงพลุไฟเสียงตึงตังสนั่นหวั่นไหว แต่ก็ดูเหมือนว่าผู้คนจะไม่มากเท่าไรนัก

เทียบกับผู้คนที่ไปร่วมงานมหกรรมพัฒนาเพื่อความยั่งยืน หรือ Sustainabitity Expo 2022 แล้ว ก็ห่างไกลกันหลายเท่าตัว

ทำให้ผมรู้สึกเบาใจและมีความหวังว่า ประเทศไทยคงจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างแน่นอน เพราะยังมีผู้คนที่ยังตั้งใจทำงานอย่างมากมายในประเทศไทยของเราในนาทีนี้

ใครจะประท้วงทางการเมืองอย่างไรก็ว่ากันไป ขอให้อยู่ในขอบข่ายของกฎหมายบ้านเมืองก็แล้วกัน...ตราบใดที่คนตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติยังมีมากกว่าแบบนี้ แม้จะมีปัญหามีอุปสรรคมากมายรออยู่ในระดับโลก...ผมก็เชื่อ เราคงจะฝ่าฟันไปได้ในที่สุดครับ.

“ซูม”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ