ไดเร็ค เอเชีย พบผู้บริโภคยังสนใจเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 มากเป็นอันดับหนึ่ง สวนทางเศรษฐกิจชะลอตัว ค่าครองชีพสูง เงินเฟ้อพุ่ง
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 65 นายวรวุฒิ วาริการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไดเร็ค เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DirectAsia กล่าวว่า ผลกระทบจากเศรษฐกิจในประเทศไทย ทั้งค่าครองชีพ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องกินระยะเวลาร่วมปี และภาวะเงินเฟ้อ พบว่าไม่ได้มีผลต่อความต้องการซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 อย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ การเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่านไดเร็ค เอเชียในช่วงครึ่งปีแรก 65 นั้นประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ยังคงเป็นที่นิยม และลูกค้าเลือกซื้อมากที่สุด โดยเราประเมินว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 จะยังคงโตต่อเนื่อง แม้สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค.กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมาเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย หรือเงินเฟ้อเดือนก.ค. 65 เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้วถึง 7.61% ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เรามองว่าแม้จะอยู่ในช่วงภาวะเงินเฟ้อ และในช่วงปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง แตะราคาสูงสุดในรอบหลายปี ทำให้คนไทยต้องใช้จ่ายด้วยความระมัดระวัง แต่ผู้บริโภคยังคงต้องการบรรเทาความเสี่ยงจากสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ รวมทั้งต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ส่งผลให้ผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญ และแบ่งรายจ่ายเพื่อการซื้อประกันภัยต่างๆ
โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ เนื่องจากรถยนต์เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน สำหรับใช้เดินทางเพื่อความสะดวกสบาย และเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้คลายความน่ากังวล ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้หลายบริษัทเริ่มให้พนักงานกลับมาทำงานได้ตามปกติ ส่งผลให้การใช้รถยนต์บนท้องถนนเพิ่มขึ้นตามกัน
ดังนั้น ผู้บริโภคจึงให้ความสำคัญกับการขับขี่ รวมถึงใส่ใจการบริหารความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านความคุ้มครองอุบัติเหตุครอบคลุมมากที่สุด ทั้งแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จึงเป็นที่นิยมของผู้ขับขี่เรื่อยมา
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพบว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 เมื่อเทียบกับปี 2564 มีจำนวนลูกค้ารายเดิมต่อประกันกับ ไดเร็ค เอเชีย คิดเป็น 76.17% และ 73.17% ตามลำดับ หรือเพิ่มขึ้น 3% โดยประมาณ แต่การแจ้งเคลมในช่วงเวลาเดียวกัน กลับมีจำนวนลดลงอยู่ที่ 0.03% โดยรถกระบะมีจำนวนการแจ้งเคลมเพิ่มขึ้นประมาณ 0.18%
ในขณะที่รถเก๋งมีจำนวนเคลมลดลง 0.06% โดยมีสาเหตุการเคลมมาจากอุบัติเหตุรถชนแบบไม่มีคู่กรณี ซึ่งผู้ขับขี่ที่มีจำนวนเคลมสูงที่สุดอยู่ในช่วงอายุ 30-39 ปี และพบว่าเป็นรถยนต์ที่ทำประกันชั้น 1 แทบทั้งสิ้น รองลงมาเป็นประกันชั้น 2+ และ 3+ ตามลำดับ