RX Tradex จัดเต็มทัพเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 9 งานในมหกรรม Manufacturing Expo พร้อมเดินหน้ายุคโควิด

Business & Marketing

Marketing

Content Partnership

Content Partnership

Tag

RX Tradex จัดเต็มทัพเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 9 งานในมหกรรม Manufacturing Expo พร้อมเดินหน้ายุคโควิด

Date Time: 19 มิ.ย. 2565 06:01 น.
Content Partnership

Summary

  • RX Tradex นำทัพเทคโนโลยีอุตสาหกรรมจัดเต็ม 9 งานใน Manufacturing Expo 2022 พร้อมเดินหน้ายุคโควิด-19

นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ จำกัด (เดิมชื่อ รี้ด เทรดเด็กซ์) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงงานมหกรรมแสดงสินค้าครั้งสำคัญ Manufacturing Expo 2022 ภายใต้คอนเซปต์ “Power Up” หรือ “เสริมพลังเพื่ออุตสาหกรรมครบวงจร” ที่กำลังจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 มิถุนายน 2565 ที่ฮอลล์ 101-104 ไบเทค บางนา ซึ่งเป็นการจัดงานในรูปแบบ on site 100% ของงานนี้ครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังจากสถานการณ์โควิด-19 โดยภายในงานจะมีไฮไลต์ 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่

1.พื้นที่จัดแสดงสินค้า จำนวนกว่า 1,000 แบรนด์ จาก 30 ประเทศ เจ้าของเทคโนโลยี เช่น เยอรมนี อิตาลี จีน เกาหลี ญี่ปุ่น สาธารณรัฐจีนหรือไต้หวัน และสิงคโปร์ ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ พลาสติก แม่พิมพ์ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ โลจิสติกส์ ซึ่งทั้งผู้แสดงสินค้าและผู้ชมงานเอง ก็รอวันได้ไปพบเจอกันที่งานมานานมากแล้ว ถึงแม้ช่วงโควิด เราก็มีกิจกรรมออนไลน์มาตลอด แต่ทุกคนก็พูดเหมือนกันหมดว่ารอ on site เราจึงมั่นใจมากว่าทุกคนอยากจะกลับมาเจอกัน ดังนั้น งาน Manufacturing Expo 2022 ครั้งนี้ เราจึงจัดกิจกรรมเอาไว้เยอะมาก ทั้งเนื้อหา สินค้า นวัตกรรมต่างๆ ที่ผู้แสดงสินค้าเตรียมพร้อมจะมานำเสนอในงาน

2.งานสัมมนา ทุกครั้งที่มีงานแสดงสินค้า ของคู่กันเลยที่เราจะมีก็คืองานสัมมนา เพราะว่าผู้ที่มาชมงานก็จะมาหาสินค้าบริการ และมาหาความรู้เพิ่มเติม สัมมนาไฮไลต์ของเราเลยก็คือ Automotive Summit โดยเราจับมือกับสถาบันยานยนต์ หน่วยงานราชการ และแบรนด์รถยนต์ ที่จะมาพูดคุยกันในหัวข้อ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน: จุดเปลี่ยนของยานยนต์แห่งอนาคต” เรียกว่าทุกอุตสาหกรรมในงาน เราก็จะมีสัมมนาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนั้นๆ หรืออย่าง “Robotics & Automation Symposium” ก็น่าสนใจ โดยจะเน้นว่าเราจะใช้ระบบอัตโนมัติมาช่วยยกระดับธุรกิจ SMEs ไทยได้อย่างไร และยังมีสัมมนาอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ทางด้านโลจิสติกส์ ที่ร่วมกับทาง World Bank ทางด้านสิ่งทอ ที่ร่วมกับสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์

3.โซนพิเศษ ส่วนแสดงนวัตกรรมเพื่อนำเสนอไอเดียและสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อต่อยอดธุรกิจ เช่น Composite Zone การแสดงวัสดุแห่งอนาคต โดยการนำเอาเส้นใยกัญชงมาผลิตเป็นกันชน ชิ้นส่วนรถยนต์
My Style Zone เปิดพื้นที่ให้ผู้ที่อยากมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองได้พบกับผู้ผลิต DITP Pavilion ให้ผู้ประกอบการได้พบกับผู้แทนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อรับคำปรึกษาในการขยายธุรกิจไปยังต่างแดน และโชว์รถขนส่งสินค้าแบบไร้คนขับ หรือ Automated Guided Vehicle (AGV) รุ่นใหม่ล่าสุด

ด้วยความอยากรู้ เราจึงถามถึงการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ จาก Reed Tradex มาเป็น RX Tradex ซึ่งคุณวราภรณ์ก็ได้เฉลยที่มาของการเปลี่ยนชื่อในครั้งนี้ว่าเป็นการรีแบรนด์ของบริษัทแม่ที่ประเทศอังกฤษ เพื่อปรับเป้าหมายในการทำงานให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง โดยยังคงยึดธุรกิจหลักที่เป็นงานแสดงสินค้า และเสริมด้วยนวัตกรรมอื่นๆ ที่ไปไกลยิ่งขึ้น รวมถึงการคำนึงถึงวัฒนธรรมองค์กรใหม่ๆ เช่น ความหลากหลาย การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม

โดยคุณวราภรณ์ได้ย้ำว่า ถึงแม้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป แต่ความต้องการพื้นฐานของคนไม่เปลี่ยน มีผู้ซื้อ ผู้ขาย มีช่องทางให้คนได้ติดต่อกัน แต่โลกเปลี่ยนไป จากเดิมต้องมาเจอหน้ากัน แลกนามบัตร ปัจจุบัน วิธีการเปลี่ยน ความเร็วเปลี่ยน เมื่อก่อนอาจจะมีแค่ 30 บริษัท มีเซลส์ไปเสนอขาย แต่เดี๋ยวนี้มี 500 บริษัท ขายของอย่างเดียวกัน เมื่อตลาดซับซ้อนมากขึ้น หน้าที่ของเราคือทำยังไงให้ความซับซ้อนพวกนี้ เป็นประโยชน์สูงสุดต่อทั้งสองฝ่าย แต่ท้ายที่สุดก็กลับไปพื้นฐานเดิม ผู้ซื้อกับผู้ขายอยากมาเจอกัน ได้ของที่ดีที่สุด ครบที่สุด ราคาที่ดีที่สุด และนั่นก็คือหน้าที่ของเราที่อยู่ตรงกลางนี้

จุดยืนของเราก็คือ We are in the business of building businesses เราอยู่ในธุรกิจที่สร้างธุรกิจให้คนอื่น นี่คือความเรียบง่ายในการเข้าใจธุรกิจของเรา อะไรที่เราทำได้เพื่อจะสร้างธุรกิจให้คนอื่นทั้งสองฝั่ง นั่นก็คือหน้าที่ของเรา ทำให้ครบ ทำให้ง่าย ทำให้ทุกอย่างสะดวกสบาย เราก็จะมีเครื่องไม้เครื่องมือ มีคอนเทนต์ มีช่องทาง มาเสริมเพิ่มเติมมากขึ้น และนวัตกรรมต่างๆ ที่เราพัฒนาเพื่อให้เราเป็นแพลตฟอร์มในการทำงานกับทุกคนได้ง่ายขึ้น

ประเทศไทย ถือว่าเป็นฮับที่ทุกคนจะเข้ามา เพราะเดินทางสะดวก โดยเฉพาะเรื่องอุตสาหกรรมการผลิต เรามีตลาดที่ใหญ่มาก ถึงประเทศไทยจะไม่ใช่เจ้าของเทคโนโลยี แต่เราเป็นฮับใหญ่ ถ้าเวลามีอะไรใหม่ๆ แบรนด์ใหญ่ๆ เขาก็จะมาเปิดตัวที่ประเทศไทย ไม่ว่าจะครั้งแรกของโลก ครั้งแรกของเอเชีย หรือครั้งแรกของอาเซียน ดังนั้น เทคโนโลยีที่เมืองไทยถือว่าใหม่สุด เร็วสุด การที่คนต่างชาติมาเพื่อซื้อขายเทคโนโลยีเหล่านี้ ก็ถือว่าเป็นการเข้ามาสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยด้วย

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.manufacturing-expo.com 
หรือสอบถามที่โทร 0 2686 7222


Author

Content Partnership

Content Partnership