เอสเอฟ ทุ่มงบ 200 ล้าน ดัน "เมกาบางนา" ยึดใจลูกค้าโซนกรุงเทพฯตะวันออก

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เอสเอฟ ทุ่มงบ 200 ล้าน ดัน "เมกาบางนา" ยึดใจลูกค้าโซนกรุงเทพฯตะวันออก

Date Time: 28 เม.ย. 2565 18:19 น.

Video

คนไทยจ่ายภาษีน้อย มนุษย์เงินเดือนรับจบ ปัญหาอยู่ที่ระบบหรือคนกันแน่ ? | Money Issue

Summary

  • เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ ทุ่มงบ 200 ล้าน ดัน "เมกาบางนา" ยึดใจลูกค้าโซนกรุงเทพฯตะวันออก พร้อมพัฒนาโครงการมิกซ์ ยูส "เมกาซิตี้" ให้ครบวงจรมากขึ้น

เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ ทุ่มงบ 200 ล้าน ดัน "เมกาบางนา" ยึดใจลูกค้าโซนกรุงเทพฯตะวันออก พร้อมพัฒนาโครงการมิกซ์ ยูส "เมกาซิตี้" ให้ครบวงจรมากขึ้น

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 65 นางสาวพลินี คงชาญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหาร เมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังการเกิดโควิด-19 ที่มีการล็อกดาวน์นั้น เมกาบางนาได้ปรับกลยุทธ์รับมือกับสถานการณ์และผ่านวิกฤติมาได้ เมื่อกลับมาเปิดให้บริการ ทางศูนย์การค้าก็สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการได้เป็นอย่างดี

ด้วยมาตรการป้องกันที่เข้มข้นจนทำให้มีจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการถึง 42 ล้านคนในปี 64 อีกทั้งมีผู้เช่ารายใหม่ๆ ทยอยเข้ามาเปิดให้บริการภายในศูนย์การค้าเมกาบางนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังได้แบรนด์ที่เป็น Premium Tier ที่ตัดสินใจมาเปิดที่เมกาบางนาด้วยความเชื่อมั่นในกำลังซื้อของลูกค้าของเรา

เช่น CHANEL FRAGRANCE & BEAUTY, GUCCI BEAUTY, DIOR COSMETICS, YSL, YUZU SUKI, KAM’S ROAST และ ทองสมิทธ์ เป็นต้น โดยอัตราการเช่าพื้นที่ของเมกาบางนาเต็มเกือบ 100% มาโดยตลอด

ทั้งนี้ หัวใจหลักของการบริหารศูนย์การค้าให้เป็น Successful Retail Destination คือ การบริหารจัดการ Tenant Mix โดยเรามีความตั้งใจสร้างให้เมกาบางนาเป็นศูนย์การค้าที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกเจเนอเรชั่น และตอบโจทย์พฤติกรรมการช็อปปิ้งแบบ One-Stop Shopping Destination โดยเรามี Key Anchor ใหญ่ถึง 5 แบรนด์ที่ถือเป็น Magnet สำคัญที่ช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ คือ

1. อิเกีย ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านจากประเทศสวีเดน ซึ่งมาเปิดให้บริการที่เมกาบางนาเป็นสาขาแรกในประเทศไทย

2. โฮมโปร ศูนย์รวมอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ในบ้านที่ครบจบในที่เดียว

3. เซ็นทรัล@เมกาบางนา เรามีการปรับเปลี่ยน Positioning ตัวห้างเดิมเพื่อตอบโจทย์ Customer Profile ของเมกาบางนาที่เปลี่ยนไป ซึ่งมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น จึงมองหาสินค้าและบริการในระดับพรีเมียมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการวางแผนในส่วนต่อขยายเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้

4. บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ไฮเปอร์มาร์เก็ตที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคคุณภาพดีในราคาย่อมเยา

5. เมกา ซีนีเพล็กซ์ รวมทั้ง บลูโอ โบว์ล และซับซีโร่ ไอซ์ สเก็ต ซึ่งเป็นศูนย์รวมความบันเทิงสำหรับทุกคนในครอบครัว

นอกจากนี้เรายังพัฒนา และสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ให้กับลูกค้ามาโดยตลอด ทั้งการช็อปปิ้งที่ลูกค้าสามารถมาอัปเดตแบรนด์ใหม่ ๆ ที่กำลังอยู่ในกระแสนิยม หรือในแง่สิทธิประโยชน์ลูกค้าก็จะได้รับความคุ้มค่ามากกว่า เมื่อมาช็อปที่เมกาบางนาด้วยสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับสมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส กับ 365-Day Marketing Campaign อีกด้วย

ขณะเดียวกัน การพัฒนาโครงการเมกาซิตี้ หรือ MEGACITY ซึ่งเป็นการสร้างคอมมิวนิตี้ขนาดใหญ่ และไลฟ์สไตล์แบบใหม่ที่จะทำให้เมกาบางนาแตกต่างจากศูนย์การค้าทั่วไปได้อย่างชัดเจน โดยเรามองว่าโครงการนี้จะสร้างความยั่งยืน (SUATAINABILITY) ในเรื่องของ Traffic ที่จะเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้า ด้วยความได้เปรียบในด้านพื้นที่ในโครงการซึ่งเป็นที่ดินผืนใหญ่ รวมกว่า 400 ไร่ และเป็นทำเลเศรษฐกิจที่สำคัญ ทำให้เมกาบางนาสามารถพัฒนาพื้นที่นี้ให้กลายเป็นเมืองที่สมบูรณ์แบบได้

ปัจจุบันเมกาซิตี้มีการพัฒนาไปแล้วกว่า 40% และได้มีการพัฒนาองค์ประกอบต่างๆ ไปแล้วอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ส่วนต่อขยายเมกา ฟู้ดวอล์ค ที่มาพร้อมกับที่จอดรถ 1,200 คัน และร้านอาหารเพิ่มกว่า 30 ร้าน, อาคารจอดรถอิเกีย 8 ชั้นที่เชื่อมต่อกับตึกเดิมของอิเกียที่รองรับรถได้เพิ่มถึง 2,000 คัน ซึ่งทำให้ปัจจุบันเมกาบางนาสามารถรองรับรถได้ครั้งละถึง 12,000 คัน

ส่วนต่อขยายโซนเมกา สมาร์ท คิดส์ แหล่งรวมสถาบันสอนเสริมทักษะกว่า 20 แห่ง , Mega Harborland สนามเด็กเล่นในร่มขนาดใหญ่, สวนสาธารณะเมกาพาร์ค, โรงเรียนประถมศึกษานานาชาติ ดิษยะศริน กรุงเทพ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ

โดยโครงการแรกได้แล้วเสร็จและทำการส่งมอบแค่ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว และมีอีก 1 โครงการที่ก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ พร้อมจะส่งมอบให้กับผู้ซื้อโครงการได้ภายในปี 2566 นี้ รวมถึง TOPGOLF ซึ่งจะเป็นท็อปกอล์ฟ แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่กว่า 29 ไร่ในโครงการเมกาซิตี้ โดยจะพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 3/65  

นางสาวพลินี กล่าวอีกว่า การพัฒนาเมกาบางนาและโครงการเมกาซิตี้ ยังคงเป็นเป้าหมายหลักในการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้น คือ การขยายพื้นที่ของเซ็นทรัล @ เมกาบางนา เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10,000 ตารางเมตร พร้อมกับปรับโฉมใหม่เพื่อให้สามารถจัดสรรโซนนิ่งสินค้าและบริการได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

รวมถึงการเปิดส่วนที่เป็น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และเพิ่มสินค้าบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของเมกาบางนาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาพัฒนาโรงแรมภายในโครงการ โดยจะเป็นโรงแรมสำหรับเจาะกลุ่มนักธุรกิจ บนพื้นที่รวมกว่า 13,000 ตารางเมตร

ทั้งนี้ ในโอกาสครบรอบ 10 ปี เมกาบางนาได้ทุ่มงบประมาณการตลาดกว่า 20 ล้านบาท ส่งมอบแคมเปญและโปรโมชั่นสุดพิเศษ Megabangna 10th Anniversary” เพื่อแทนคำขอบคุณให้กับลูกค้าที่สนับสนุนเมกาบางนามาตลอด โดยตลอดเดือน พ.ค.-ก.ค.65 นี้อีกด้วย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ