แกร็บ สานต่อโครงการ “Grab The Future” ปีที่ 5 มอบทุนการศึกษากว่า 1 ล้านบาทให้บุตรคนขับ-ร้านอาหาร

นับเป็นปีที่ 5 แล้วที่ แกร็บ ประเทศไทย ได้เดินหน้าสานต่อโครงการ “Grab the Future” ซึ่งริเริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 2561 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการศึกษาผ่านการมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรหลานของพาร์ทเนอร์คนขับที่มีผลการเรียนดีหรือมีกิจกรรมเด่น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจในการดำเนินธุรกิจที่เรียกว่า “GrabForGood” หรือ “แกร็บ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ที่มุ่งส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนในวงจรธุรกิจของแกร็บ ซึ่งรวมถึงกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับและครอบครัว 

โดยในปีนี้ โครงการดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ส่งต่อการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด” เพื่อตอกย้ำถึงบทบาทของแกร็บในฐานะแพลตฟอร์มที่ไม่เพียงสร้างโอกาสในการหารายได้ให้กับคนในสังคม แต่ยังมุ่งส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องให้กับทุกคนในวงจรธุรกิจ (อีโคซิสเต็ม) โดยได้รับเกียรติจาก คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมเป็นประธานในพิธี พร้อมมอบทุนการศึกษารวมมูลค่า 1,070,000 บาทให้กับ 214 ครอบครัว ณ สมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

“ความพิเศษของโครงการในปีนี้ คือ แกร็บได้ขยายการมอบทุนการศึกษาเพื่อสนับสนุนบุตรหลานของกลุ่มพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร นอกเหนือจากเดิมในกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับ ทั้งยังได้เชิญชวนให้ผู้ใช้บริการของเรามีส่วนร่วมกับโครงการนี้ ด้วยการใส่รหัส DONATE เมื่อใช้บริการต่างๆ โดยแกร็บหักเงิน 10 บาทจากทุกออเดอร์เพื่อสมทบเป็นทุนการศึกษาสำหรับน้องๆ ด้วย” วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย กล่าว

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช กล่าวในช่วงพิธีเปิดงานว่า “ทิศทางการพัฒนาด้านการศึกษาในประเทศไทยในปัจจุบัน มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการศึกษาแบบองค์รวมและบูรณาการ เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ศาสนา และการเมือง เพื่อมุ่งสร้างบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของตลาดในยุค Disruption เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้การศึกษาไม่ถูกจำกัดแค่ในห้องเรียน แต่สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา และตลอดชีวิต กระทรวงศึกษาธิการ ยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นภาคเอกชน อย่าง แกร็บ ประเทศไทย ให้ความสำคัญในการส่งเสริมด้านการศึกษาและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง นอกจากโครงการมอบทุนการศึกษาแล้ว ยังมีโครงการที่ช่วยให้ความรู้และพัฒนาศักยภาพของคนขับและร้านค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด ‘ส่งต่อการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด’ อย่างแท้จริง”

“น้องโฟร์” ลูกสาวของคุณพ่อ “กบ” สุรพงษ์ สุขบูรณะ หนึ่งในครอบครัวพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บที่ได้รับทุนในปีนี้กล่าวว่า ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2 รู้สึกดีใจมากที่แกร็บมีโครงการนี้ เพราะช่วยส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้มีโอกาสทำตามความฝันของตนเอง ส่วนตัวมองว่าการเรียนรู้ไม่จำเป็นที่จะต้องมาจากการอ่านหนังสือหรือในห้องเรียนเท่านั้น แต่เราสามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์การใช้ชีวิตในแต่ละวัน รวมถึงจากมุมมองและประสบการณ์ของคนรอบตัวอย่างคุณพ่อ สำหรับทุนที่ได้รับในครั้งนี้จะนำไปต่อยอดทักษะการเรียนรู้เพิ่มเติม เช่น การเรียนพิเศษ โดยอยากเน้นวิชาที่จำเป็นอย่างเคมี ฟิสิกส์ และคณิตศาสตร์ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในอนาคตโฟร์ตั้งใจจะเป็นวิสัญญีแพทย์ อยากมีส่วนช่วยรักษาผู้ป่วยต่อไป

นอกจากพิธีมอบทุนการศึกษาแล้ว ภายในงานยังมีการแนะนำโครงการ “GrabAcademy” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการหลักที่แกร็บที่มุ่งให้ความรู้ และพัฒนาศักยภาพให้กับทั้งพาร์ทเนอร์คนขับ และพาร์ทเนอร์ร้านค้า โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะ และองค์ความรู้ในเชิงดิจิทัล เพื่อเป็นประโยชน์ในการให้บริการ รวมถึงการพัฒนาต่อยอดทางธุรกิจ โดยมีสองตัวแทนพาร์ทเนอร์มาร่วมแชร์ประสบการณ์การเรียนรู้บน GrabAcademy ให้กับทุกๆ คน

อีกหนึ่งครอบครัวที่ได้รับทุนในปีนี้ “เก๋” ชลินี นึ่งเจริญ พาร์ทเนอร์ร้านค้าที่ขายผลไม้ตัดแต่งพร้อมทานผ่าน GrabFood คุณแม่ของ “น้องดีเดย์” กล่าวว่า รู้สึกชื่นชมที่แกร็บจัดโครงการดีๆ แบบนี้ให้กับทั้งครอบครัวของคนขับและร้านค้า พอรู้ว่าแกร็บมีการให้ทุนการศึกษา เราก็รีบสมัครเลยเพราะลูกชายเรียนดีและคิดว่าน่าจะมีโอกาสได้ วันนี้ยังได้มารู้ว่าแกร็บมีหลักสูตรให้ความรู้ต่างๆ กับพาร์ทเนอร์ผ่านโครงการ GrabAcademy ด้วย ตื่นเต้นมาก จะรีบกลับไปเรียนแข่งกับลูก ที่ผ่านมาแม้จะไม่มีความรู้ด้านการขายออนไลน์อะไรก็ขายดีอยู่แล้ว ถ้าได้เสริมความรู้เพิ่มคงช่วยให้ขายดีขึ้นอีกมาก

“แกร็บจะยังคงมุ่งมั่นส่งเสริม และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมตามพันธกิจ GrabForGood อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีหรือแพลตฟอร์มของเราเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ พัฒนาทักษะและศักยภาพในการแข่งขัน รวมถึงขจัดข้อจำกัดในด้านต่างๆ เพื่อให้ทุกคนก้าวทันเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล” วรฉัตร กล่าวทิ้งท้าย