“บีเคดี” ลั่นพร้อมลุยงานเต็มสูบ รุกคืบปั้นแบรนด์ใหม่จับตลาดบ้านเศรษฐี

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“บีเคดี” ลั่นพร้อมลุยงานเต็มสูบ รุกคืบปั้นแบรนด์ใหม่จับตลาดบ้านเศรษฐี

Date Time: 4 ก.พ. 2565 06:21 น.

Summary

  • BKD ลุยธุรกิจเต็มรูปแบบ หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยล่าสุดบริษัทมีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (backlog) ประมาณ 1,500 ล้านบาท

Latest

คาราบาวแดง ตั้งเป้าเพิ่มแชร์ 3% ทะยานสู่แชมป์ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ผนึกไทยรัฐ กรุ๊ป ปีที่ 4 ลุยแคมเปญใหญ่

นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกเดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKD เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทพร้อมกลับมาลุยธุรกิจเต็มรูปแบบ ทั้งในส่วนของลูกค้าโครงการภาครัฐและเอกชน รวมทั้งกลุ่มลูกค้าบ้านเศรษฐี หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยล่าสุดบริษัทมีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (backlog) ประมาณ 1,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์หันไปจับกลุ่มลูกค้าบ้านเศรษฐีที่มีกำลังซื้อสูง ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีเกินคาด เห็นโอกาสการเติบโตที่ชัดเจน ทำให้บริษัทมีแนวคิดที่จะปั้นแบรนด์ใหม่ที่จับตลาดบ้านเศรษฐีโดยเฉพาะ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นดำเนินการจดลิขสิทธิ์ คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ ล่าสุดบริษัทได้ส่งมอบงานตกแต่งเพนต์เฮาส์สุดหรู มูลค่า 200 ล้านบาท และปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาอีกกว่า 10 ราย

“บีเคดียังมีงานรอรับรู้รายได้กว่า 1,500 ล้านบาท และยังไปจับตลาดที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าระดับบน ที่มีโอกาสเติบโตสูงมาก กระแสตอบรับดีเกินคาด ล่าสุดได้รับชำระเงินค่าขายหุ้นน้ำประปาจากบริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์พาวเวอร์ จนครบถ้วน 550 ล้านบาทแล้ว ทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบีเคดีกล่าวอีกว่า บริษัทคาดหวังว่าภาครัฐจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากโครงการลงทุนต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย โดยในส่วนของบีเคดี แม้จะได้รับผลกระทบดังกล่าว แต่การดำเนินธุรกิจของบริษัทยังคงเดินต่อไปได้โดยไม่มีการปลดพนักงาน เนื่องจากบริษัทยังมีงานในมือ (backlog) ประมาณ 1,500 ล้านบาท ส่งผลให้พนักงานมีงานทำได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปีหน้า ประกอบกับฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินสดมากพอที่จะรองรับการดำเนินธุรกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนน้อยมากแค่ 0.2 เท่า ซึ่งหนี้สินส่วนใหญ่จะเป็นการค้า อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ต่างๆกลับเข้าสู่ภาวะปกติ บริษัทก็พร้อมที่จะรับงานตกแต่งได้ทันที.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ