เซ็นทรัล อยุธยา เตรียมเปิด 30 พ.ย. 64 ปั้นให้เป็น The Cultural Capital เมืองหลวงด้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชื่อดังของไทย ที่ชาวต่างชาติจะต้องนึกถึง
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 64 นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า การปักหมุดสร้างโครงการเซ็นทรัล อยุธยา อย่างเต็มรูปแบบ Fully-Integrated Mixed-Use Development บนทำเลยุทธศาสตร์ที่เป็นเขตเศรษฐกิจ ซึ่งจะสร้าง Big Impact ยกระดับอยุธยาไปอีกขั้น เรามุ่งมั่นปั้นเมืองอยุธยาให้เป็น The Cultural Capital เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศที่ชาวต่างชาติจะต้องนึกถึง
รวมถึงเมืองที่นักท่องเที่ยวไทยเองก็อยากจะมาใช้เวลาท่องเที่ยวให้นานขึ้น ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลสะท้อนในการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนต่างๆ ทั่วจังหวัดด้วย โดยโฟกัส 3 กลยุทธ์สำคัญ ดังนี้ 1.Complete The Heritage City เชิดชูความภูมิใจและเติมเต็มการใช้ชีวิตของชาวอยุธยา ด้วยโครงการมิกซ์ยูสที่สมบูรณ์แบบ บนที่ดิน 47 ไร่ พื้นที่รวม 68,000 ตร.ม.
โดยดึงศักยภาพเมืองด้วย Kyoto Model ดึงเอกลักษณ์เมืองมรดกโลกพร้อมเติมเต็มด้วยพื้นที่การค้าและศูนย์กลางการใช้ชีวิต โดยชูความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมร่วมสมัย Thai Twist ที่ได้แรงบันดาลใจจากอัตลักษณ์ท้องถิ่นสู่สายตาชาวโลก ส่องสปอตไลต์การท่องเที่ยวของจังหวัดอยุธยาสู่ระดับโลก
ทั้งนี้ถือเป็นโครงการที่เราใส่ใจทุกรายละเอียดของงานออกแบบก่อสร้าง ร่วมกับทั้งสถาปนิกและช่างฝีมือท้องถิ่นเพื่อรังสรรค์ให้เซ็นทรัล อยุธยาเป็นโครงการระดับ Masterpiece ในส่วนของกลุ่มเป้าหมาย เจาะกลุ่มชาวอยุธยา 85% และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ 15% มุ่งตอบโจทย์ Unmet Need ของคนอยุธยาที่มีกำลังซื้อสูงอย่างกลุ่ม Young Affluent ด้วยแบรนด์ชั้นนำและไลฟ์สไตล์ Urban Vibes และ Experiential Retail ที่สร้างประสบการณ์ให้เซ็นทรัล อยุธยาเป็นทั้ง Cultural, Shopping and Living Space
โครงการเซ็นทรัล อยุธยา ประกอบด้วยศูนย์การค้า 4 ชั้น รวม 400 ร้านค้า, คอนโดมิเนียม ESCENT VILLE AYUTTHAYA 400 ยูนิต คอนโดติดศูนย์การค้า, โรงแรม 220 ยูนิต รองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ, คอนเวนชั่นฮอลล์ ศูนย์กลางธุรกิจ MICE พื้นที่จัดงาน 2,000 ตร.ม. รองรับได้กว่า 2,000 คน และ Cultural Space พื้นที่ Interactive Museum (พร้อมเปิดให้บริการ Q4/65)
สำหรับศูนย์การค้าเซ็นทรัล อยุธยา เปิดให้บริการวันที่ 30 พ.ย. 64 ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป พบไฮไลต์พิเศษ การแสดงจากแขกรับเชิญเบลล่า ราณี และการแสดงผสมผสานลิเกปะทะฮิปฮอป โดยพระเอกลิเกร้อยล้าน ศรราม น้ำเพชร และซีดี กันต์ธีร์ ปิติธัญ
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ส่วนที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้อยุธยาด้วยกลยุทธ์ที่ 2 Complete The Tourism Ecosystem อนุรักษ์และยกระดับการท่องเที่ยวอยุธยาทั้งระบบ
ทั้งนี้เรามองไปถึงภาพใหญ่ถึงการเปิดเซ็นทรัล อยุธยา จะช่วย springboard กระตุ้นและฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศตั้งแต่ Q4/2564 และปูพรมต่อเนื่องถึงปี 65 ด้วยการเป็นจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ครบครัน
โดยจะเข้าไปเติมเต็มไลฟ์สไตล์ Tourist’s Journey ให้ท่องเที่ยวได้ทั้งแบบ Day-to-Night ช่วยส่งเสริมให้เที่ยวอยุธยาได้นานขึ้น Longer Stay 2 วัน 1 คืน ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นกับ Tourist Transportation Hub และ Information Center รวมไปถึงทำให้ไลฟ์สไตล์ทริปสนุกขึ้น กับประสบการณ์ท่องเที่ยวท้องถิ่นแท้ๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว กระจายรายได้ไปให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและชุมชนต่างๆ มากขึ้นอีกด้วย
ส่วนกลยุทธ์ที่ 3 Complete Communities Co-Creation ยกระดับท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างและกระจายรายได้ โดยจากวิสัยทัศน์ของเราที่ต้องการเข้าไปช่วยส่งเสริมและยกระดับทุกชุมชนที่โครงการของเราไปตั้งอยู่ สำหรับโครงการนี้เรามองเห็นความโดดเด่นและภูมิปัญญาท้องถิ่นในด้านต่างๆ มารวมไว้ในที่เดียว
ทั้งการมีบทบาทเป็น Food & Craft Curator โดยเซ็นทรัล อยุธยาร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งเสริมและเพิ่มช่องทางจำหน่ายในงาน อยุธยาของอร่อย ของดี ของเด่น จากทั้ง 16 อำเภอ และ Tops Market พร้อมด้วยตลาดจริงใจ Farmer’s Market ตลาดชุมชนรูปแบบใหม่ที่ประสบความสำเร็จจากเชียงใหม่
นอกจากนี้เรายังนำโมเดลเดียวกันนี้มาทำเป็น Weekend Market ตลาดสินค้าชุมชนในบรรยากาศเอาต์ดอร์ จำหน่ายทั้งสินค้าเกษตรกรรมและงาน Craft หัตถกรรมคุณภาพดีของอยุธยา เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ฐานราก ในด้านการสนับสนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยวท้องถิ่น
เรายังได้นำร่องจับมือกับ Local Alike ในการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดไปยังชุมชนต่างๆ ของอยุธยาได้อย่างทั่วถึง เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แตกต่าง และสร้างพลังเชิงบวกให้กับชุมชน นอกจากนี้ยังมีแผนการเตรียมต่อยอดกับภาครัฐ ส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวและโปรแกรมส่งเสริมไกด์ท้องถิ่นอีกด้วย.