หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาด หลายๆธุรกิจถูกปลดล็อกกลับมาเปิดให้บริการได้ รวมทั้งนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่จะเริ่มดีเดย์ 1 พ.ย.64
กลุ่มเซ็นทรัล โดยบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ผู้พัฒนาศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ ได้ประกาศเดินหน้าโครงการศูนย์การค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดและเตรียมเปิดให้บริการเพื่อสร้างบรรยากาศและความมั่นใจของภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัว ในปีนี้ 2 ศูนย์ คือศูนย์ การค้าเซ็นทรัล พลาซา สาขาศรีราชา และสาขาอยุธยา
เซ็นทรัล ศรีราชา จะเป็นศูนย์แรกที่เปิดตัวในวันที่ 27 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งเซ็นทรัลระบุว่า การลงทุนในโครงการใหม่ๆจะต้องไปสร้างเมือง สร้างแหล่งธุรกิจ สร้างความเจริญให้กับเมือง หรือจังหวัดที่เข้าไปลงทุน จะเป็นดาวน์ทาวน์หรือศูนย์กลางการค้าของศรีราชาแห่งใหม่กับสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวศรีราชาและชลบุรี
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรม การผู้จัดการใหญ่ สาย งานการตลาด ซีพีเอ็น กล่าวว่า เซ็นทรัล ศรีราชาจะเป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่รวมหลายๆโครงการรวมไว้ด้วยกัน ในโครง การประกอบด้วยศูนย์ การค้า โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และอาคารสำนักงาน เป็นต้น โดยในส่วนของศูนย์การค้าจะเริ่มเปิดให้บริการก่อน ส่วนโครงการอื่นๆจะทยอยเปิดตัวในอนาคตต่อไป
เซ็นทรัล ศรีราชา มูลค่าการลงทุน 4,200 ล้านบาท บนทำเลยุทธศาสตร์ใจกลางเมืองศรีราชา บนที่ดิน 27 ไร่ พื้นที่รวมกว่า 140,000 ตร.ม. โดยถูกออกแบบเป็น “ฟิวเจอร์ รีเทล” หรือรูปแบบค้าปลีกแห่งอนาคตที่ตอบสนองโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมาก เป็นศูนย์การค้ารูปแบบใหม่ Blur the Line กับโซนใหม่ที่ช็อปปิ้งด้วยกันได้ทั้งครอบครัวที่มีชื่อว่า ‘Playhouse’ แห่งแรกตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรักแฟชั่น คัดสรรสินค้าสุดชิกมารวมอยู่ในชั้นเดียว และ ‘Design House’ สินค้าตกแต่งบ้านอย่างมีสไตล์มารวมไว้ในที่เดียว ตอบรับเทรนด์ของโลกทุกมิติ และ Brand Believe ของเซ็นทรัลจะเป็นปัจจัยที่จะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ
ขณะเดียวกันโครงการมิกซ์ยูสจะเป็นสูตรการสร้างความสำเร็จ เชื่อมโยงและส่งเสริมซึ่งกันและกันทั้งในส่วนของศูนย์การค้า, โรงแรม, ที่อยู่อาศัย และคอนเวนชั่นฮอลล์ภายในโครงการ เป็นการเติมเต็มสร้างย่านธุรกิจ และเป็นการสร้าง Center of Life ศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดให้กับชาวศรีราชา ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายและมีกำลังซื้อสูง ทั้งท้องถิ่นและชาวต่างชาติที่ส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่น
ทางซีพีเอ็นมีความมั่นใจในโครงการเซ็นทรัล ศรีราชา ซึ่งเป็นโครงการที่ 34 ว่าเป็นการสร้างเมืองที่รองรับโครงการ“อีอีซี” ของรัฐที่จะดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนไทยและต่างประเทศในอนาคตซึ่งจะเป็นศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์
ทางด้านความปลอดภัยกับมาตรการ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ SAFE Plus+” ใช้ระบบปรับอากาศและกรองอากาศ ด้วยการติดตั้งแผ่นกรองอากาศ (MERV Filter) ที่ช่วยกรองละอองฝุ่นได้มากถึง 90%, ติดตั้ง UVC Lamp แสงยูวีที่เครื่องปรับอากาศส่วนกลาง และติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศตามจุดต่างๆ เพื่อวัดคุณภาพอากาศภายในศูนย์การค้าให้มั่นใจว่าอยู่ในระดับที่ดีเสมอ
ขณะที่โครงการเซ็นทรัล อยุธยาจะเปิดวันที่ 30 พ.ย.64 ส่วนเซ็นทรัล จันทบุรีจะเปิดให้บริการในเดือน มี.ค.65 ขณะที่โครงการพัฒนาต่อไปที่ย่านสยามสแควร์บริเวณโรงภาพยนตร์สกาล่า รวมทั้งดุสิต พาร์คและสถานทูตอังกฤษอยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนโครงการที่อยู่ในแผนการรีโนเวทคือเซ็นทรัล พระราม 2 และเซ็นทรัล พัทยา
สำหรับวันเปิดให้บริการวันแรก เตรียมจัดเต็ม สำหรับการเปิดตัว และโปรโมชันครั้งยิ่งใหญ่ให้สมกับการเป็นต้นแบบของศูนย์สมัยใหม่สู่การเป็นศูนย์การกลางไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ของภาคตะวันออกต่อไป.
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th