เซ็นทรัลพัฒนา ประกาศเปิดศูนย์การค้า “เซ็นทรัล อยุธยา” 30 พ.ย. นี้ เดินหน้าบุกเมืองเศรษฐกิจ

Business & Marketing

Marketing

ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวประชาสัมพันธ์

Tag

เซ็นทรัลพัฒนา ประกาศเปิดศูนย์การค้า “เซ็นทรัล อยุธยา” 30 พ.ย. นี้ เดินหน้าบุกเมืองเศรษฐกิจ

Date Time: 7 ก.ย. 2564 14:27 น.

Summary

  • เซ็นทรัลพัฒนา ประกาศปักหมุดเปิดศูนย์การค้า “เซ็นทรัล อยุธยา” 30 พ.ย. 64 นี้ เดินหน้าบุกเมืองเศรษฐกิจ มั่นใจมาตรการสะอาดปลอดภัยเข้มข้น

เดินหน้าสร้างเมือง สร้างประเทศ ส่งเสริมอยุธยาเป็น Hub สู่ภาคเหนือและอีสาน

กระตุ้นไทยเที่ยวไทย ปั้นเซ็นทรัล อยุธยา เป็นเดสติเนชั่นเติมเต็มการท่องเที่ยวอยุธยาทั้งระบบ พร้อมกระจายรายได้ สร้าง Local Wealth ให้ชุมชน

มั่นใจความพร้อม คุมเข้มมาตรการสะอาดปลอดภัยสูงสุด พร้อมพนักงานฉีดวัคซีนครบ 100% ก่อนเปิดให้บริการ

ไตรมาส 4/2564 พร้อมเปิดให้บริการ 2 ศูนย์การค้า ได้แก่ เซ็นทรัล ศรีราชา เปิดบริการวันที่ 27 ต.ค. 64 และเซ็นทรัล อยุธยา เปิดบริการวันที่ 30 พ.ย. 64

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย แสดงพลังขับเคลื่อนประเทศ เดินหน้าขยายโครงการใหม่ตามแผน เตรียมเปิดให้บริการศูนย์การค้า “เซ็นทรัล อยุธยา” ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 นี้ ให้ความร่วมมือภาครัฐเต็มที่ในการคุมเข้มมาตรการสะอาดปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยมีความพร้อมในการให้บริการด้วยการที่พนักงานบริการลูกค้าฉีดวัคซีนครบ 100% ในทั้ง 2 ศูนย์การค้าใหม่คือ เซ็นทรัล อยุธยา และเซ็นทรัล ศรีราชา (ซึ่งจะเปิดบริการ 27 ต.ค. 64)

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนายังคงเดินหน้าช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติในการฝ่าฟันวิกฤติไปพร้อมกับการขยายโครงการใหม่ๆ เพื่อช่วย Springboard ให้ประเทศฟื้นตัวทั้งในเชิงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ด้วยจุดแข็งของเราในการบุกเบิกเมืองเศรษฐกิจและทำเลศักยภาพ เรายืนยันเดินหน้าเปิดศูนย์การค้าตามแผน โดยเตรียมเปิดให้บริการ ‘เซ็นทรัล อยุธยา’ ในวันที่ 30 พ.ย. 64 ทั้งนี้ได้ประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ และมีแผนรองรับพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ทางศูนย์การค้าและร้านค้ามีความมั่นใจในการเตรียมความพร้อมด้วยมาตรการความสะอาดปลอดภัยเข้มข้นขั้นสูงสุด รวมถึงดูแลให้พนักงานฉีดวัคซีนครบ 100% ก่อนเปิดให้บริการ โดยเซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้นำในการสร้างโมเดล ‘ศูนย์การค้าปลอดภัย’ ทั้งการริเริ่มแผนแม่บทและการเปิดพื้นที่สนับสนุนการฉีดวัคซีนและกิจกรรมสาธารณสุขต่างๆ ของภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง”

ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวต่อไปว่า “เซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้นำอสังหาฯ รายใหญ่ การขยายโครงการของเราจะช่วยสร้าง Economic & Tourism Impact ได้อย่างมาก ดังเช่นโครงการเซ็นทรัล อยุธยา ที่รองรับการฟื้นตัวของค้าปลีก ช่วยเหลือผู้ประกอบการในจังหวัด สร้างงาน สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น อีกทั้งเรายังหวังให้เป็นจังหวัดแรกๆ ที่การท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โครงการเซ็นทรัล อยุธยา จะกลายเป็นเดสติเนชั่นและศูนย์กลางของจังหวัดที่เข้าไป Complete Tourism Ecosystem ของอยุธยาทั้งระบบ ด้วยความครบครันในที่เดียวทั้ง Transportation Hub, Tourist Information และ Cultural Space จึงเป็นทั้งจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นแบบ Short Trip หรือการเที่ยวอยุธยาให้นานขึ้น เที่ยว 2 วัน 1 คืน และเที่ยวได้ทั้งวันทั้งคืน นอกจากนี้เรายังใช้แนวคิด Community at Heart ด้วยการสนับสนุนผลิตภัณฑ์และการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน ส่งเสริม Local Wealth ให้ผู้คนได้มีรายได้ เช่น การจับมือกับไกด์ท้องถิ่น และแนวคิดการสร้าง The City Wonder Experience โดยวางแผนจับมือกับภาครัฐ ซึ่งจะเป็นการรวมผู้คนในชุมชน ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ให้มาอยู่ใน Ecosystem เดียวกันและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน”

“ด้านการดูแลพันธมิตรผู้เช่าเราดูแลช่วยเหลือต่อเนื่องรอบด้าน เน้นเพิ่มความยืดหยุ่นให้คู่ค้ามีความมั่นใจในการลงทุน ด้วยแผนการตลาดและเครื่องมือบนแพลตฟอร์มใหม่ๆ อีกทั้งเซ็นทรัล อยุธยา ยังมีการออกแบบพื้นที่ในฟอร์แมตใหม่ๆ มีความเป็น Day-to-Night Attractions เที่ยวได้ทั้งวันทั้งคืน รวมถึงความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมและมี Must-Visit Instagrammable Landmarks ทั่วทั้งศูนย์ฯ จึงเปิดโอกาสให้คู่ค้าได้ทำโมเดลธุรกิจใหม่ๆ พร้อมทั้งเรายังเน้นการ Co-Creation กับแบรนด์ต่างๆ สร้าง Unique Experience ให้กับอยุธยา และด้วยความแข็งแกร่งของเซ็นทรัลพัฒนาที่มีเครือข่ายเข้าถึงทั้งผู้ประกอบการท้องถิ่นและคู่ค้ารายใหญ่ การทำ Business Matching ให้ผู้ประกอบการได้มาเจอกันยังถือเป็นความสำเร็จในทุกๆ โครงการที่เราขยายไปอีกด้วย” ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าว

เซ็นทรัลพัฒนาเตรียมแผนผลักดันช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับท้องถิ่นของทั้งสองศูนย์การค้าที่กำลังจะเปิดให้บริการ เริ่มที่การส่งเสริมให้อยุธยาเป็นจังหวัดแรกในแผน “เที่ยวจังหวัดใกล้อย่างปลอดภัย” หากสถานการณ์โควิดคลี่คลายขึ้นในช่วงปลายปี โดย “เซ็นทรัล อยุธยา” จะเป็นจุดหมายปลายทางที่จะช่วยเติมเต็มการท่องเที่ยวของอยุธยาทั้งระบบ สร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น พร้อมส่องสปอตไลต์ให้อยุธยาโดดเด่น เป็นเมืองท่องเที่ยว UNESCO World Heritage ที่ทั่วโลกต้องมาเยือน เพื่อรองรับการเปิดประเทศและการท่องเที่ยวในอนาคต ในขณะที่ “เซ็นทรัล ศรีราชา” จะช่วยส่งเสริมศรีราชาในด้านการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและการเป็นศูนย์กลางของ EEC และ New S Curve ในอนาคต พร้อมมอบประสบการณ์ล้ำอย่างลงตัวในบรรยากาศแบบ Semi-Outdoor ใกล้ชิดธรรมชาติ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้ศรีราชา

ข้อมูลเพิ่มเติม:

โครงการเซ็นทรัล อยุธยา (เปิดวันที่ 30 พ.ย. 64) แลนด์มาร์กและจุดหมายปลายทางที่จะส่งเสริมให้ ‘อยุธยาของคนไทย’ เป็นสปอตไลต์ระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ "อัศจรรย์อยุธยา" ยกระดับความเรืองรองของเมือง UNESCO World Heritage ให้ทั่วโลกได้รู้จัก โครงการมิกซ์ยูสที่ครบครันประกอบด้วย ศูนย์การค้า, Tourist Attraction, โรงแรม, ที่พักอาศัย, และคอนเวนชั่นฮอลล์ ที่จะเข้ามาเติมเต็มและยกระดับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเมือง ผสมผสานเอกลักษณ์ของการเป็นเมืองมรดกโลก, ประวัติศาสตร์, อาหาร, สินค้าพื้นถิ่น เข้ากับความโมเดิร์น บนทำเลศักยภาพเชื่อมต่อ Transportation Hub สู่ภาคเหนือและอีสาน พร้อมจุดเด่น Must-Visit Instagrammable Landmarks ทั่วโครงการ ด้วยสถาปัตยกรรมสะดุดตา ที่ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวไทย ผู้ออกแบบโรงแรมศาลาอยุธยา ภายใต้บรรยากาศแบบไทยร่วมสมัยหรือ Thai Twist ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องถิ่น เช่น เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองและผ้าทอลายอย่าง พร้อมสัมผัสเสน่ห์แห่งอยุธยาตั้งแต่เช้าจรดค่ำกับ Day-to-Night Attractions พบตลาดเช้าวิถีไทย ตลาดกลางคืนสุดชิก คาเฟ่สุดชิล ให้ทุกคนได้แวะมา check-in ช็อป ชิม ชิล ก่อนเริ่มต้นและสิ้นสุดทริปของการท่องเที่ยวอยุธยา

โครงการเซ็นทรัล ศรีราชา (เปิดวันที่ 27 ต.ค. 64) แลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Innovation Oasis: ล้ำอย่างลงตัว" และเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ครบครันและใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก ประกอบด้วยศูนย์การค้ารูปแบบ Semi-Outdoor แห่งแรกนอกกรุงเทพฯ, คอนเวนชั่นฮอลล์, โรงแรม, เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์, อาคารสำนักงาน และ Education Center โดดเด่นด้วย Semi-Outdoor Format ซึ่งเป็น Success Model จากเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ที่ถูกออกแบบให้ผสมผสานความเป็นธรรมชาติให้เข้าถึงในทุกพื้นที่ทั้ง Indoor และ Outdoor อาทิ Outdoor Walking Street พบ Giant Green Space กว่า 2,800 ตร.ม., ประกอบด้วย Playground, Food Street, Pet Park และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย Eco-Friendly Mall ใส่ใจการใช้ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโครงการ พร้อมจัดการพลังงานอย่างเป็นเลิศด้วย Giant Green Wall, Solar Rooftop นำพลังงานกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยแนวคิด Zero Waste เปลี่ยนขยะให้เป็นศูนย์ ตอบรับไลฟ์สไตล์ด้วย Thematic Lifestyle Mall สร้าง Seamless Shopping Journey ที่ผสมผสานบรรยากาศ Homey Ambience อย่างลงตัว


Author

ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวประชาสัมพันธ์