นายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยถึงกรณีบริษัท น้ำตาลกุมภวาปี อ.กุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี มีหยุดกิจการน้ำตาลอย่างเป็นทางการยืนยันว่าผลประกอบการโรงงานน้ำตาลที่เหลือ 56 แห่ง ยังมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และขณะนี้ราคาน้ำตาลตลาดโลกมีแนวโน้มดีขึ้น จะเป็นผลดีต่อ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมน้ำตาลทราย และฤดูกาลผลิตปี 25 64/55 ในเดือน พ.ย.นี้ก็ จะมีโรงงานน้ำตาลเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง คือโรงงานน้ำตาลสีคิ้ว อ.สีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ในเครือโรงงานน้ำตาลครบุรีอีกด้วย ส่งผลให้โรงงานน้ำตาลทรายจะกลับมามีจำนวน 57 แห่งเช่นเดิม หลังจากโรงงานน้ำตาลกุมภวาปี ได้ประกาศปิดตัว
สำหรับปัญหาบริษัท น้ำตาลกุมภวาปี ที่ มีชาวไร่อ้อยคู่สัญญา จำนวน 1,195 ราย ในฤดูการผลิตปี 2563/64 หีบอ้อยได้ 716,862 ตัน และผลิตน้ำตาลได้ 82,977 ตัน โดยการปิดโรงงานดังกล่าวไม่กระทบกับชาวไร่อ้อยคู่สัญญา เนื่องจากบริษัทฯจะโอนย้ายสัญญาซื้อขายอ้อยไปยังบริษัท น้ำตาลเกษตรผล จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเดียวกันที่มีกำลังการผลิตได้ถึง 30,000 ตันอ้อยต่อวัน รองรับชาวไร่อ้อยคู่สัญญาจากบริษัท น้ำตาลกุมภวาปี และจะไม่ผลกระทบต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทย
ล่าสุด สอน.ได้ประสานไปยังบริษัท น้ำตาลกุมภวาปี ให้ดำเนินการตามระเบียบข้อกฎหมายเพื่อเยียวยาช่วยเหลือแก่พนักงานประจำโรงงาน ซึ่งทราบว่ามีพนักงานประจำโรงงาน 300 ราย พนักงานชั่วคราวในช่วงเปิดหีบอ้อย ส่วนใหญ่สัญญา 4 เดือนอีก 2,000 ราย ในส่วนพนักงานชั่วคราวเปิดหีบอ้อย บางส่วน จะมีการจ้างต่อในโรงงานน้ำตาลใหม่ แต่ไม่สามารถระบุจำนวนได้ เพราะต้องดูปริมาณอ้อยที่จะเข้าหีบ ขณะเดียวกัน จะดำเนินการติดตามการจ่ายเงินค่าอ้อยขั้นสุดท้าย ให้กับชาวไร่อ้อยคู่สัญญาอย่างใกล้ชิดต่อไป.