นายอเล็กซานเดอร์ เฟลเดอร์ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งฟู้ดแพนด้า เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ฟู้ดแพนด้าได้ปล่อยแคมเปญ #SupportSME เพื่อช่วยเหลือร้านอาหารรายย่อย ร้านค้าขนาดเล็ก และผู้ค้าในตลาดสด ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ โดยใช้งบกว่า 75 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย 30,000 ราย ลดค่าคอมมิชชันเหลือเพียง 25% ตลอดทั้งแคมเปญ ตั้งแต่ วันที่ 1-30 มิ.ย.
สำหรับพันธมิตรในจังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี และยังงดเก็บค่าคอมมิชชัน หรือค่า GP (การเรียกเก็บค่าใช้บริการแพลตฟอร์ม)กับเอสเอ็มอีและผู้ค้ารายใหม่ในช่วงเดือนแรกหลังลงทะเบียนบนแพลตฟอร์มอีกด้วย โดยตั้งแต่ต้นปี ฟู้ดแพนด้าใช้เงินกว่า 200 ล้านบาทแล้วเพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีไทย “ไม่อยากให้มองว่าค่าคอมมิชชัน หรือ GP เป็นต้นทุน แต่อยากให้มองเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจมากกว่า ขณะที่การปรับลดค่า GP ในระยะยาวจะทำให้แพลตฟอร์มขาดรายได้ซึ่งจะนำไปช่วยทำตลาดกระตุ้นคำสั่งซื้อให้กับร้านค้า ซึ่งอาจกระทบต่อยอดขายและผู้ขับขี่ได้ในระยะยาว”
“ในการระบาดระลอก 3 ซึ่งเริ่มต้นในปีนี้นั้น พบว่าธุรกิจทั้งระบบได้รับผลกระทบมากกว่า โดยในระบบของฟู้ดแพนด้าพบว่ามีผู้ประกอบการปิดร้านไปราว 25,000 ร้าน ทั้งปิดชั่วคราวและถาวร ขณะเดียวกันก็มีร้านค้าเปิดใหม่เพิ่ม โดยปัจจุบันมีร้านค้าแอ็กทีฟหรือมียอดขายขั้นต่ำ 1 ออเดอร์ต่อวันในแพลตฟอร์มฟู้ดแพนด้า 140,000 ร้าน”
นายอเล็กซานเดอร์ กล่าวอีกว่า การระบาดในรอบก่อน พบยอดสั่งอาหารทะยานขึ้นอย่างชัดเจนใน 3 สัปดาห์แรก จากนั้นก็ปรับลดลง โดยคนหันมาซื้ออาหารไปประกอบเองที่บ้านเพิ่มขึ้น ส่วนการระบาดระลอก 3 นี้ ยอดสั่งเพิ่มชัดเจนเพียง 1 สัปดาห์แรก จากนั้นลดลงเป็นปกติ น่าจะเป็นเพราะคนต้องประหยัดมากขึ้น เพราะโควิดระบาดยืดเยื้อ จึงหันมาสั่งอาหารสดประกอบเองที่บ้านซึ่งประหยัดกว่า โดยยอดสั่งอาหารสดและอุปกรณ์ครัว สูงกว่าปีที่แล้ว 2 เท่า.