เดอะมอลล์กรุ๊ปผนึกกำลังเดินหน้าฟื้นฟูธุรกิจ

ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘เดอะมอลล์กรุ๊ป’ หนึ่งในเครือข่ายยักษ์ใหญ่ค้าปลีกในประเทศไทยได้จัดสัมมนาใหญ่เพื่อขานรับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และเชิญผู้บริหารสูงสุด ธปท., สมาคมธนาคารไทยและผู้บริหารสูงสุดของธนาคารพาณิชย์มาให้ความรู้และสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการธุรกิจ

หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างมาตรการฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด–19 วงเงินรวม 350,000 ล้านบาท มีระยะเวลาเบิกเงินกู้ 2 ปีนับตั้งแต่วันที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ และขยายต่ออายุได้อีก 1 ปีหากมีเหตุจำเป็น

โดยเดอะมอลล์กรุ๊ปได้นำคู่ค้าใน ‘อีโคซิสเต็ม’ ซึ่งเป็นกลุ่มก้อนธุรกิจที่เชื่อมโยงกันเป็นระบบในเครือข่ายของศูนย์การค้าราว 6,000 ราย ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ประกอบการขนาดเล็ก เอสเอ็มอีไปจนถึงผู้ประกอบการรายใหญ่มาเข้าร่วมสัมมนาในโครงการ “ประสานพลังเพื่อคู่ค้า เดินหน้าฟื้นฟูธุรกิจ”

พร้อมเป็นตัวกลางประสานงานรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นของผู้ประกอบการธุรกิจ ร้านค้า ซัพพลายเออร์ เอสเอ็มอีที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อฟื้นฟูให้กับแต่ละธนาคาร และประสานการจัดประชุมในวาระต่อไป ระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจกับแต่ละธนาคาร เพื่อรับทราบมาตรการ ข้อมูลและรายละเอียด เพื่อให้ได้รับการพิจารณาวงเงินได้อย่างรวดเร็ว จากนั้น เข้าสู่กระบวนการขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของแต่ละธนาคาร

ขณะที่ธนาคารจะติดต่อตรงกับผู้ประกอบการธุรกิจที่ยื่นขอวงเงินแต่ละราย โดยผู้ประกอบการธุรกิจที่ได้รับอนุมัติวงเงินจะได้รับการแจ้งจากธนาคารโดยตรง และเดอะมอลล์ กรุ๊ป จะอำนวยความสะดวกในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงกันระหว่างผู้กู้และธนาคาร

นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การแพร่ระบาดในระยะสามนี้นับว่าโชคร้ายมาก เกิดการแพร่เชื้อมาตั้งแต่เทศกาลสงกรานต์จนไม่ได้ตั้งตัวกัน เมื่อผู้ประกอบการด้วยกันประสบความเดือดร้อนจากผลกระทบที่เกิดขึ้น ภาครัฐเองก็เร่งออกมาตรการฟื้นฟูอย่างเต็มความสามารถ เราในฐานะองค์กรธุรกิจได้มองเห็นถึงความสำคัญของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย หากพวกเขาอยู่ไม่ได้ ศูนย์การค้าของเราก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน

“ตั้งแต่การแพร่ระบาดในปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการต่างๆได้แบกภาระมานานมากและยังจะแบกต่อไปอีก 6 เดือนไหวหรือไม่เพราะกิจกรรมการฉีดวัคซีนซึ่งเป็นความหวังของคนไทย ทั่วประเทศจะเริ่มฉีดกันและกว่าจะสร้างความเชื่อมั่น ผู้คนและธุรกิจกลับมาก็น่าจะเป็นช่วงปลายปี ดังนั้นในช่วงนี้จะช่วยกันให้อยู่รอดได้อย่างไร”

นางสาวศุภลักษณ์กล่าวว่า จึงได้ประสาน ธปท. และ 6 ธนาคารขนาดใหญ่ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, กรุงไทย, ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย, กรุงศรีอยุธยาและธนาคารออมสินมาร่วมประสานพลังเพื่อคู่ค้า เดินหน้าฟื้นฟูธุรกิจ ขานรับนโยบาย ธปท. ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน ร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำเป็นพันธมิตรเพื่อสนับสนุนสินเชื่อฟื้นฟู ซอฟต์โลนและเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการ ได้เข้าถึงสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และรักษาการจ้างงานเพื่อให้อยู่รอดในช่วงนี้ไปให้ได้

ทางเดอะมอลล์กรุ๊ปจะทำหน้าที่ช่วยรวมข้อมูล ร่วมจัดทำแผนขอสินเชื่อ แผนฟื้นฟูธุรกิจให้ผู้ประกอบการ รวมไปถึงการจัดหาช่องทางการจำหน่าย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นพันธมิตรธุรกิจร่วมกับเดอะมอลล์ แต่เป็นผู้ประกอบการรายอื่นๆก็ได้เรายินดีเป็นตัวกลาง สร้างความมั่นใจว่าไม่ถูกทอดทิ้ง

ทางด้านสถาบันการเงินได้ร่วมกันยืนยันถึงความตั้งใจจริงที่จะปล่อยสินเชื่อภายใต้โครงการนี้ร่วมกับเดอะมอลล์กรุ๊ป พร้อมยินดีจะพิจารณาการปล่อยสินเชื่ออย่างเร่งด่วนภายใน 7 วัน โดยจะปล่อย สินเชื่อในระดับตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไปที่ไม่จำเป็นต้องมีหลักประกันไปจนถึงการปล่อยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้

ผู้บริหารธนาคารบางแห่งได้เสนอให้สินเชื่อต่อเนื่องระยะยาว หากแผนธุรกิจพิสูจน์ได้ว่าจะสามารถบริหารเดินหน้าสร้างการเติบโตที่แข็งแรงภายหลังการแพร่ระบาด โดยผู้ประกอบการที่สนใจสามารถดูตารางเวลาที่ธนาคารได้กำหนดไว้

เป็นการร่วมช่วยกันคนละไม้คนละมือในที่สุดประเทศไทยต้องรอดจากวิกฤตการณ์ที่รุนแรงที่สุดในครั้งนี้ไปได้ อย่างน้อยก็เป็นความหวังให้ผู้ประกอบการที่ยังพอมีกำลังที่ลุกสู้ ประคับประคองเอาตัวรอดและผ่านสถานการณ์ความยากลำบากไปด้วยกัน

สิ่งสำคัญก็คือการปรับปรุงทิศทางของธุรกิจตัวเองให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดต้นทุนการผลิต การเข้าสู่โลกดิจิทัล เพราะโลกหลังโควิดจะไม่กลับมาเหมือนเดิมอย่าง
แน่นอน.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th