ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัดได้ ระบุว่า โควิด-19 ระลอก 3 จะฉุดรั้งมูลค่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มปีนี้ และส่งผลให้ผู้ประกอบการยังคงเผชิญกับความยากลำบาก หากสถานการณ์เลวร้ายการระบาดลากยาวมากกว่า 3 เดือน มูลค่าใช้จ่ายในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มในประเทศ 2.41 ล้านล้านบาท หดตัวลง 2.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีมูลค่า 2.47 ล้านล้านบาท ซึ่งการแพร่ระบาดที่เป็นคลัสเตอร์กลุ่มใหม่ และการกลับมาฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภคคงเป็นไปได้ยาก อีกทั้งยังทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนไม่สามารถประคับประคองสภาพคล่องมากกว่า 2 ปีติดต่อกันได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย แต่หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายใน 3 เดือนข้างหน้า รวมทั้งการกระจายวัคซีนเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้และมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายออกมาเพิ่มในช่วงที่เหลือของปี มูลค่าการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มในประเทศอาจมีมูลค่า 2.48 ล้านล้านบาท หรือขยายตัว 0.5%
นอกจากนี้ หากพิจารณารายสินค้า กลุ่มสินค้าที่อาจ ประคับประคองยอดขายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน คือกลุ่มอาหาร อาทิ ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ข้าว เนื่องจากเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และมีสัดส่วนเกือบ 60% ของมูลค่าการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ในประเทศทั้งหมด แต่ในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและมีความสำคัญต่อการดำรงชีพรองลงมา อาทิ กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ จะเป็นกลุ่มสินค้าที่ยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องจากปีก่อน จากกำลังซื้อที่เปราะบาง การแข่งขันทางธุรกิจที่สูง และมีกฎหมายที่เข้ามากำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้น.