นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ก.พ.64 ปรับตัวดีขึ้น หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย การบริโภคภาคเอกชนทยอยฟื้นตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับดีขึ้น การส่งออกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของภาครัฐ ทั้งโครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ และโครงการ ม.33 เรารักกัน โดยเฉพาะโครงการเราชนะมีบทบาทค่อนข้างมากในการใช้จ่าย เพราะเป็นการกระตุ้นโดยตรง ที่ผ่านมามีการเบิกจ่ายที่ลงสู่ประชาชนค่อนข้างเร็วและมาก ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ
“แรงส่งจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐในช่วง 6 เดือนแรก คือ ไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 เม็ดเงินที่ออกมาจะทำให้เศรษฐกิจโตต่อเนื่องได้ แต่หลังจากนั้นขึ้นกับการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ที่ว่า จะเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 4 หรือไม่ โดย ธปท.คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยประมาณ 3 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งทั้งหมดจะเข้ามาในไตรมาสที่ 4 โดยเริ่มทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวนำร่องตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 และหากเป็นไปตามคาด เศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เศรษฐกิจยังเปราะบาง มาตรการกระตุ้นของรัฐยังมีความจำเป็นต่อเนื่อง”
นางสาวชญาวดีกล่าวต่อว่า ในเดือน ก.พ. ตัวเลขเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นแทบทุกหัวข้อ โดยการส่งออกแม้จะติดลบ 0.2% และหากไม่รวมทองคำจะขยายตัวสูงถึง 7% ขณะที่การนำเข้าขยายตัวสูงกว่า สูงถึง 23.9% เนื่องจากมีการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ธปท.เป็นห่วงยังคงเป็นภาคแรงงาน เนื่องจากผู้รับสิทธิว่างงานใหม่ในระบบประกันสังคม เดือน ก.พ.ยังเพิ่มขึ้น โดยอยู่ที่ระดับ 89,360 คน ทำให้ต้องติดตามความเปราะบางของตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิด.