นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ของไทยลดลงมาก เป็นผลจากภัยแล้ง โดยผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ออกมาในเดือน ก.พ.63-ก.พ.64 ต่ำกว่าที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดการณ์ไว้ถึง 19.50% ทำให้ราคาผลปาล์มสดปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยเดือน ส.ค.63 อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 3.58 บาท และเพิ่มเป็น กก.ละ 7.70 บาท เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และยังทำให้ราคาซีพีโอแพงขึ้นมากเช่นกัน โดยราคาซีพีโอเดือน ก.พ.63 อยู่ที่ กก. 23.43 บาท และเพิ่มเป็น กก.ละ 40 บาท เมื่อเดือน ก.พ.นี้ ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเพื่อการบริโภคสูงขึ้นตามไปด้วย
“การที่ซีพีโอลดลงมาก อาจส่งผลให้น้ำมันปาล์มบรรจุขวด เพื่อการบริโภคลดลง แต่กรมได้ดูแลให้มีการผลิตต่อเนื่อง เพื่อให้มีสินค้าออกมาจำหน่ายให้เพียงพอ รวมถึงดูแลราคาจำหน่าย ให้สอดคล้องกับต้นทุน และได้ขอความร่วมมือผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดให้ชะลอการปรับราคาออกไปให้นานที่สุด รวมถึงขอความร่วมมือห้างค้าส่ง ค้าปลีก จำหน่ายน้ำมันปาล์มขวด ในระดับราคาที่ไม่เป็นภาระต่อประชาชน ซึ่งผู้ประกอบการ ได้ให้ความร่วมมืออย่างดี และน้ำมันปาล์มขวดเฉลี่ยขวดละ 48-49 บาท รวมถึงให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบร้านค้าย่อยไม่ให้ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำมันปาล์มยังคงอยู่ในภาวะวิกฤติ โดยตัวเลขสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ เมื่อสิ้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 96,208 ตันจากในช่วงปกติ ที่ไทยต้องมีสต๊อกน้ำมันปาล์ม เพื่อความมั่นคงที่ 250,000-300,000 ตัน ที่เพียงพอใช้ในประเทศได้ 1 เดือน โดยปริมาณสต๊อกเดือน ก.พ. ดังกล่าว ลดลงมากถึง 31% จากเดือน ม.ค. ที่อยู่ที่ 141,130 ตัน และเป็นแนวโน้มที่ลดลงต่อเนื่อง 4 เดือน จากเดือนธ.ค.63 ที่มีสต๊อก 209,328 ตัน เดือน พ.ย.63 มีสต๊อก 301,644 ตัน คาดว่าปริมาณสต๊อกซีพีโอจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นไป เพราะผลปาล์มสดเริ่มทยอยออกสู่ตลาดแล้วขณะที่การจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดสำหรับผู้บริโภคในซุปเปอร์มาร์เกต, ห้างสรรพสินค้า ยังมีราคาทรงตัวระดับสูงอยู่ที่ขวดละ 48-49 บาท และจำกัดปริมาณการซื้อไม่เกินครัวเรือนละ 3 ขวด ขณะที่ตามร้านค้าโชห่วย และตลาดสด ขวดละ 50-55 บาท.