ครม.เร่งเปิด 3 ด่านชายแดนไทย-ลาว อนุมัติชดเชยเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่ม

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้ขอให้พิจารณาเรื่องการเปิดด่านชายแดนไทย-ลาว 3 แห่ง คือ ด่านปากแซง จ.อุบลราชธานี ด่านเชียงคาน จ.เลย ด่านไหโศก จ.หนองคาย ซึ่งเป็นด่านที่ภาคเอกชนเสนอในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบไปดำเนินการ โดยอาจเริ่มที่การเปิดเฉพาะการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน พร้อมมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19

นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบอนุมัติจ่ายเงินชดเชยพิเศษแทนการจัดสรรที่ดินแปลงอพยพในโครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ให้แก่ประชาชน 118 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 34.34 ล้านบาท ได้รับเงินชดเชยพิเศษตั้งแต่ 170,000-770,000 บาท เฉลี่ยรายละ 291,013 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง ทั้งนี้ การก่อสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการจ่ายเงินชดเชยพิเศษแทนการจัดสรรที่ดินแปลงอพยพตั้งแต่ปี 2539 ทั้งสิ้น 7,297 ครอบครัว เป็นเงิน 3,292 ล้านบาท แต่ในปี 2547 มีการร้องเรียนว่าพบทุจริต จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้รับรองรายชื่อประชาชนที่ผ่านการตรวจสอบ 118 ราย เสนอ ครม.พิจารณาในครั้งนี้

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.ยังเห็นชอบให้การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดวงเงินกู้ระยะสั้น โดยวิธีกู้เบิกเงินเกินบัญชี (โอดี) 1,500 ล้านบาท เนื่องจากยอดจำหน่ายบุหรี่ในปีงบประมาณ 2564 ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยประเมินในกรณีที่เลวร้ายสุดที่อาจเกิดขึ้น คือ ยอดจำหน่ายบุหรี่ ลดลง 50% มีรายรับ 43,634 ล้านบาท และรายจ่าย 48,952 ล้านบาท ทำให้เงินสดคงเหลือ ณ 30 ก.ย.64 เหลือ 1,540 ล้านบาท หากนำเงินสดคงเหลือหักเงินนำส่งรัฐ 20% หรือ 1,758 ล้านบาท จะส่งผลให้มีเงินสดคงเหลือติดลบ.