สศช.สรุปถูกทวายยกเลิกสัญญาเสนอนายกฯ ดึง “เมียนมา” อุ้ม “อีอีซี”

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ได้จัดทำข้อสรุปกรณีบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ ที่เป็นคู่สัญญากลุ่มธุรกิจร่วมทุน ภายใต้บริษัทจดทะเบียนในเมียนมา หรือ Project Companies รวม 5 บริษัท ถูกบอกเลิกสัญญา 7 ฉบับ จากคณะกรรมการบริหารงานพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของเมียนมา (DSEZMC) เพื่อดำเนินการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ 27 ตารางกิโลเมตร พร้อมระบบโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคต่างๆให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว ซึ่งในส่วนของรัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนยุทธศาสตร์การเชื่อมโยง เขตเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็จะหารือเพื่อหากลไกช่วยเหลือหรือหาเวทีเพื่อให้มีการพูดคุยกันกับเมียนมาเพื่อให้เดินหน้าในทิศทางเดียวกัน

“ในแง่ยุทธศาสตร์ ผมมองว่าควรเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป เพราะเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย เป็นพื้นที่ที่ทำให้เกิดการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมมาเชื่อมโยงกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และรัฐบาลไทยได้ลงทุนสร้างถนนมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี เพื่อเป็นเส้นทางออกไปเชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ร่วมกัน รวมทั้งเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของ 2 ประเทศ”

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้กันเงินไว้ 4,500 ล้านบาท ให้รัฐบาลเมียนมากู้เพื่อนำไปสร้างถนนจากบ้านพุน้ำร้อนไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย แต่เมียนมายังไม่ได้ดำเนินการ ดังนั้น จากนี้ไป นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (JCC) ต้องไปหารือกับเมียนมา เพื่อนำข้อสรุปมาเสนอคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (JHC) ต่อไป.