นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย ว่า สมาคมโรงแรมได้ยื่นขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล 4 เรื่อง ซึ่งตนจะนำข้อเสนอทั้งหมดหารือร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 12 ม.ค.พิจารณา ประกอบด้วย 1.ขอให้รัฐบาลร่วมจ่ายค่าจ้าง ให้แรงงานในภาคการท่องเที่ยว ในลักษณะร่วมกันจ่ายระหว่างรัฐบาลและเอกชน หรือโคเพย์ (Co-pay) ฝ่ายละ 50% จำนวนเงินไม่เกิน 7,500 บาท เพื่อรักษาอัตราการจ้างงานไว้
2.การขยายเวลาใช้สิทธิจองห้องพักในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งมีการจองเข้ามาในช่วงก่อนปีใหม่ 2564 หรือก่อนเกิดการระบาดรุนแรงที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยกระทรวงการคลังได้อนุมัติให้ขยายใช้ได้ตั้งแต่ 6-12 เดือน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับระบบของธนาคารกรุงไทย ให้ปลดล็อกเงื่อนไข เพื่อให้ผู้ใช้สิทธิสามารถเลื่อนได้ พร้อมกับได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ 40% ด้วย ซึ่งขอเวลาดำเนินการ 1 เดือน รวมถึงมีปัญหาในส่วนของผู้ใช้สิทธิบางรายต้องการยกเลิกการจองห้องพักและไม่เดินทางท่องเที่ยวแล้ว ซึ่งทางโรงแรมบางส่วนพร้อมคืนเงินจองในอัตรา 60% ให้ แต่ติดในเรื่องค่าธรรมเนียมการโอน จะเป็นการรับผิดชอบของฝ่ายใด ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ รับเป็นผู้เจรจาร่วมกับเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวออนไลน์ (โอทีเอ) ว่าจะสามารถคืนค่าธรรมเนียมที่ 2% ให้ได้หรือไม่ 3.การช่วยลดค่าไฟฟ้าในอัตรา 15% ต่อหน่วย ไม่จำกัดปริมาณการใช้ไฟของโรงแรมแต่ละแห่ง และ 4.การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน)
นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า สมาคมได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงแรมเลื่อนการจองออกไปก่อน ส่วนการคืนเงินจอง 60% กลับให้ลูกค้านั้น ถือว่าขึ้นอยู่กับการดุลพินิจของผู้ประกอบการแต่ละราย และมองว่าจากที่รัฐบาลขยายโครงการเราเที่ยวด้วยกันให้จนถึงวันที่ 30 เม.ย.นั้น หากสามารถขยายได้จนถึงสิ้นปี 2564 ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดที่เกิดขึ้นขณะนี้ หากไม่สามารถจบลงได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ (ม.ค.-ก.พ.) เชื่อว่าจะมีโรงแรมอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องปิดตัวเพิ่มเติม.