อิชิตัน ส่งเครื่องดื่มวิตามินทั้ง ซี อี ลุยตลาดสุขภาพ ดันยอดขายที่เหลือของปี 63 มั่นใจปีนี้ไม่มี Low Season ส่วนอิชิตัน อินโดนีเซีย คาดรับรู้ส่วนแบ่งกำไรต่อเนื่องทั้งปี หนุนผลงานปี 63 โดดเด่นตามเป้า
ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI กล่าวว่า ช่วงที่เหลือของปี 63 เราตั้งเป้าหมายจะเติบโตทั้งในแง่ของยอดขายและกำไร จากแผนทำการตลาดเชิงรุกบุกตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
โดยก่อนหน้านี้เปิดตัว อิชิตัน น้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามิน B รวม ในช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับดีมาก และคาดจะเข้ามาสนับสนุนผลงานในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมด้วย การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงปลายเดือนก.ย.-ต.ค.นี้ ได้แก่ อิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ ซี พลัส อี มาเสริมภูมิต้านทาน ป้องกันไข้หวัด ซึ่งเจาะตลาดทั้ง Modern Trade และ Traditional Trade
นอกจากนี้ ยังมีอิชิตัน วิตซีซี เครื่องดื่มวิตามินซีสูง วางขายผ่าน Traditional Trade, MAKRO และ Mini Big C อีกทั้งเปิดตัว เย็นเย็น X Dragonball Z และเย็นเย็น Super Cooling จับตลาดผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม
ขณะเดียวกัน ยังได้จัดแคมเปญกระตุ้นตลาดที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิม พร้อมวางกลยุทธ์ร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ TRUE IKEA และ Grab ผนึกกำลังเพื่อส่งเสริมการขาย สนับสนุนให้ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ที่เดิมเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ ให้กลับมาคึกคักไม่แพ้ช่วงครึ่งปีแรก
ตัน กล่าวว่า ปีนี้เรามี Category ใหม่มาเติมเต็มความสามารถในการผลิตให้ดีขึ้น และสนับสนุนให้กำไรครึ่งปีหลังดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ปีนี้จะเป็นปีที่อิชิตันไม่มี Low season เนื่องจากกระแสเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง แม้ตลาดยังเล็กแต่มีศักยภาพการเติบโตสูง เป็นโอกาสให้อิชิตันชิงความเป็นเจ้าตลาดได้
ทั้งนี้ เราวางเป้าสินค้าใหม่กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในช่วงครึ่งปีหลังนี้ทำยอดขายได้ 400 ล้านบาท และด้วยจุดแข็งของโรงงานของอิชิตันมีกำลังการผลิตสูงสุด 1,500 ล้านขวดต่อปี ทำให้เรามีเครื่องดื่มไซส์ 10 บาทที่จำหน่ายได้ดีมากในตลาด Traditional Trade ซึ่งไม่มีใครสามารถทำได้ เป็นอีกกลุ่มสินค้าที่เสริมกำไรปีนี้ให้แข็งแกร่ง และการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น
ส่วนตลาด OEM และการส่งออกนั้นยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่กลยุทธ์ในการรักษามาร์เก็ตแชร์ได้ในระดับที่ดี ทำให้ภาพรวมการส่งออกใน CLMV ยังประคองตัวได้ และเตรียมขยายตลาดไปยังประเทศฟิลิปปินส์ และมาเลเซียเพิ่มเติม หลังเห็นเทรนด์การเติบโตของอิชิตัน อินโดนีเซีย ที่คาดจะรักษาความสามารถในการทำกำไรต่อเนื่องในปีนี้
โดยเราจะชูผลิตภัณฑ์ Thai Milk Tea ให้โดดเด่น ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากฐานลูกค้าเดิมที่เหนียวแน่น ทำให้ประเมินว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดปรับตัวดีขึ้น จะทำให้ภาพรวมกิจกรรมการตลาดและยอดขายคึกคักตามไปด้วย อีกทั้งมีแผนออกรสชาติใหม่ บุกตลาดอินโดนีเซียต่อเนื่อง ได้แก่ Thai Coconut Water, ชาพร้อมดื่ม Teh Tawar และอิชิตันน้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามิน B รวม
อย่างไรก็ตาม อิชิตันยังคงเน้นกลยุทธ์ 3N ประกอบด้วย New Product การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มชาพรีเมียม ชิซึโอกะ ที่ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่ากลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่อิชิตัน กำลังมุ่งไป จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค รวมทั้ง New Market การหาตลาดใหม่ในการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ และ New Business การมองหาธุรกิจใหม่เพื่อต่อยอดการเติบโต
โดยในปีนี้ ตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโตราว 5% จากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 5,300 ล้านบาท ขณะที่รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา อิชิตันมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 2,655 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 10.4%
ขณะที่ กำไรสุทธิอยู่ที่ 308.5 ล้านบาท เติบโต 22.9% อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 20.6% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.6% โดยเป็นการเติบโตสวนทางภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไทยที่ปรับลดลง ณ สิ้นเดือน มิ.ย.63 มีมูลค่าตลาดชาพร้อมดื่ม 5,639 ล้านบาท
ทั้งนี้ ลดลง -12.71% ในเชิงมูลค่า และลดลง -13.02% ในเชิงปริมาณ แบ่งเป็นชาเขียวพรีเมียมสัดส่วน 11.49% ของมูลค่าตลาดชาทั้งหมด โดยชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะ มีส่วนแบ่งการตลาดชาพรีเมียมอยู่ที่ 28.09% ยังคงตอกย้ำเบอร์หนึ่งตลาดชาพรีเมียมต่อเนื่อง