นายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงมติที่ประชุมสามัญสมาคมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาการเรียงช่องทีวีดิจิทัลบนแพลตฟอร์มทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีใหม่ว่า สมาชิกทั้งหมดพร้อมสนับสนุนแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่เสนอออกประกาศเรียงช่องฉบับใหม่ ให้โครงข่ายดาวเทียม, เคเบิลทีวีสามารถเรียงช่อง 1-10 เองได้ เพื่อให้อุตสาหกรรมเดินหน้าต่อไป และพึ่งพาอาศัยกัน โดยไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงหมายเลขช่องในปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติดังกล่าวสืบเนื่องจากศาลปกครองกลางมีคำสั่งว่า การประกาศเรียงช่องของ กสทช.ในปี 58 ที่กำหนดให้ทีวีดาวเทียม หรือเคเบิลทีวีต้องเรียงหมายเลขช่องตามผลการประมูลของ กสทช.นั้น มิชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลให้ทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวีไม่จำเป็นต้องเรียงหมายเลขช่องตามประกาศเดิม จนสร้างความปั่นป่วนให้แก่บรรดาช่องทีวีดิจิทัล ซึ่งได้ประมูลเลือกเลขช่อง และทำการตลาดจนติดหูติดตาผู้ชมตลอด 7 ปีที่ผ่านมา และขณะนี้ กสทช.ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองดังกล่าวไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว กสทช.เตรียมออกประกาศเรียงช่องใหม่ คืนช่อง 1-10 ให้ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีเอาไปจัดสรรได้เอง ซึ่งนายสุภาพชี้แจงว่า แม้การคืน 10 ช่องแรกจะไม่ถูกหลักสากล และเงื่อนไขการประมูล แต่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ต้องกำหนดกติกาไม่ให้เกิดปัญหา เช่น ช่อง 1-10 ต้องเป็นช่องบอกรับสมาชิก ต้องไม่อนุญาตให้ทีวีดิจิทัลมาถือครองและออกอากาศซ้ำ ตลอดจนประเภทของช่องรายการใน 1-10 ต้องไม่เป็นคู่แข่ง หรือมีแนวทางซ้ำกับช่องทีวีดิจิทัลในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นช่องข่าว, หนัง, วาไรตี้
ก่อนหน้านี้ ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีนำเลขช่อง โดยเฉพาะ 1-10 ไปทำประโยชน์ทางธุรกิจได้ เพราะเป็นเลขต้น จำง่าย จนเมื่อมีการประมูลทีวีดิจิทัล ทำให้ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีต้องจัดสรรช่องตามแนวทางที่ กสทช.กำหนด นำไปสู่การฟ้องร้องและเรียกคืนเลขช่อง 1-10 แต่ประกาศเรียงช่องฉบับใหม่ของ กสทช.จะยอมให้ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีจัดเรียงช่อง 1-10 ได้เอง ทีวีดิจิทัลช่องสาธารณะขยับไปอยู่ช่อง 11-15 ส่วนทีวีดิจิทัลภาคธุรกิจตั้งแต่ช่อง 16-36 ยังอยู่ช่องเดิม โดยวันที่ 4 ส.ค.นี้ กสทช.จะประชุมรับฟังความเห็นในกลุ่มทีวีดิจิทัล และโครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีในเรื่องดังกล่าว.