นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (เอ็กซิมแบงก์) เปิดแถลงทิศทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลังปี 63 และผลการดำเนินงานของธนาคารว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของธนาคารนั้น ธนาคารมีกำไรก่อนจะมีการ สำรองหนี้สงสัยเผื่อสูญที่ 1,163 ล้านบาท โดยหลังจากธนาคารต้องกันสำรองเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์มาตรฐานบัญชีใหม่ (TFRS9) เป็น 2,098 ล้านบาท บวกกับการกันสำรองผลขาดทุนด้านเครดิต ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 2,579 ล้านบาท รวมแล้วช่วงครึ่งปีแรก ธนาคารมีการสำรองหนี้สงสัยเผื่อสูญสูงถึง 5,487 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากการที่ธนาคารกันสำรองหนี้เผื่อสูญไว้สูง ทำให้ครึ่งปีแรก ธนาคารขาดทุนกำไรสุทธิเพียง 1,416 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนปัจจุบันธนาคารมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง 126,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.02% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการค้า 35,655 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อการลงทุน 90,836 ล้านบาท ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 6.37% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 4.6% ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกที่ถดถอยช่วงต้นปีจากการระบาดของโควิด-19 ส่วนสิ้นปีนี้คาดว่าหนี้เสียจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการบริโภคและการท่องเที่ยวภายในประเทศ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยคาดว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศปี 2563 น่าจะติดลบ 6-8% และการส่งออกน่าจะติดลบถึง 8-10% ทั้งการเติบโตของภาคส่งออกขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก รวมถึงความสามารถของผู้ประกอบการไทยในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระเงินค่าสินค้าของผู้ซื้อ และความเสี่ยงด้านความผันผวนของค่าเงิน”.