Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

ตั้งซุปเปอร์บอร์ดคุมฟื้นฟู ขสมก.สางหนี้แสนล้าน ฝัน 7 ปีมีกำไร

Date Time: 12 มิ.ย. 2563 07:01 น.

Summary

  • คมนาคม จ่อเสนอนายกรัฐมนตรีตั้งซุปเปอร์บอร์ดเข็นแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. โดยกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง ต้องร่วมผนึกกำลังเร่งสางหนี้ 127,000 ล้านบาท และขจัดปัญหาขาดทุนสะสมร่วมหมื่นล้าน

 

คมนาคม จ่อเสนอนายกรัฐมนตรีตั้งซุปเปอร์บอร์ดเข็นแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. โดยกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง ต้องร่วมผนึกกำลังเร่งสางหนี้ 127,000 ล้านบาท และขจัดปัญหาขาดทุนสะสมร่วมหมื่นล้าน หวังดัน ขสมก.พ้นจากหลุมดำ พร้อมจัดเช่ารถเมล์ไฟฟ้า (EV) 2,511 คัน วิ่งให้บริการแทนรถเก่า ลุ้น 7 ปีกลับมามีกำไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร.ได้มีมติเห็นด้วยในหลักการของแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.ฉบับปรับปรุงใหม่ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และเพื่อให้เกิดความชัดเจน ในประเด็นตามข้อสังเกตของ คนร.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ก่อนที่จะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทางกระทรวงคมนาคมจึงได้เตรียมที่จะเสนอให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ฉบับปรับปรุงใหม่) ขึ้นมา 1 ชุด เพื่อให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวกลั่นกรองงานตามแผนฟื้นฟูกิจการฉบับใหม่ ตามที่ คนร.ตั้งข้อสังเกต

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดนี้จะมีกรรมการร่วมจำนวน 13 คน โดยจะมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน ส่วนคณะกรรมการจะประกอบด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง, นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม, ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ, ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร), ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ, เลขาธิการสภาพัฒน์, อธิบดีกรมการขนส่งทางบก, ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข., ผู้อำนวยการ ขสมก. และรองผู้อำนวยการ ขสมก.ฝ่ายบริหาร ร่วมกันเป็นกรรมการ

สำหรับขอบข่าย อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้ จะมีภารกิจกลั่นกรองงานตามแผนฟื้นฟูกิจการฉบับใหม่ ตามที่ คนร.ตั้งข้อสังเกต และแนวทางที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย, พิจารณาปรับปรุงแผนให้มีความชัดเจน ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ, เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลตามที่จำเป็น, ปฏิบัติตามภารกิจที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย และสรุปแนวทางฟื้นฟูกิจการเพื่อเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบทบาทของคณะกรรมการจะเป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงคมนาคม ต้องการเร่งรัดแผนฟื้นฟู ขสมก. ให้มีความคืบหน้าโดยเร็วและยังมีรายละเอียดที่ต้องดำเนินการต่อไปอีกในหลายประเด็น เช่น การจัดเช่ารถเมล์ไฟฟ้า (EV) จำนวน 2,511 คัน, การกำหนดค่าโดยสารแบบตั๋ววัน 30 บาท เป็นต้น ซึ่งนอกจากคณะกรรมการชุดนี้จะทำรายละเอียดเพื่อเตรียมเสนอ ครม.แล้ว จะต้องประสานความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงการคลังตามที่มีภารกิจที่ต้องรับไปดำเนินการในประเด็นที่ต้องมีการแก้ไขปัญหาหนี้และภาวะขาดทุนสะสมของ ขสมก. มูลค่ารวมกว่า 127,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูง และต้องได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง รวมถึงสภาพัฒน์ฯ โดยภาระหนี้ที่มีในอดีตนั้น จะมีลักษณะที่ต้องทยอยชำระเป็นงวดๆ ทั้งในส่วนของหนี้พันธบัตรและหนี้เงินกู้ที่ครบกำหนด

รวมทั้งในอนาคตเมื่อแผนฟื้นฟูผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีไปแล้ว ก็จะมีภารกิจในการติดตามความคืบหน้าของงาน ตามแนวทางการฟื้นฟูในช่วงเปลี่ยนผ่าน 2-3 ปีข้างหน้า เช่น ภารกิจที่ ขสมก.จะมีการทยอยรับมอบรถเมล์ EV ใหม่ 2,511 คัน ไปจนครบในเดือนกันยายน 2565

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า แผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.นั้นคาดว่าจะเสนอ ครม. ได้ภายในเดือน มิ.ย.63 นี้ ซึ่งแผนฟื้นฟู ขสมก.ฉบับปรับปรุงใหม่นี้จะเป็นการเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการให้บริการผู้โดยสารให้มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งตามแผนจะนำรถปรับอากาศมาให้บริการ ขณะเดียวกันจะลดค่าครองชีพประชาชน ลดปัญหาจราจรติดขัด รวมถึงมลภาวะที่เป็นพิษ ที่สำคัญจะลดปัญหาหนี้สิน ลดปัญหาการขาดทุนสะสมของ ขสมก.ให้หมดไปและจะกลับมามีกำไรได้ภายใน 7 ปีนับจากนี้ หรือภายในปี 2572

ทั้งนี้ กรอบที่จะดำเนินการตามแผนฟื้นฟู ขสมก.นั้น ในส่วนของภาระหนี้สิน ขสมก.ที่มี 127,786 ล้านบาท ซึ่งหนี้จะมีอยู่ 2 ส่วน คือ หนี้พันธบัตร 64,339 ล้านบาท, หนี้เงินกู้ 63,446 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการของ ขสมก.นั้นในปี 2520 ขสมก.มีผลขาดทุนสะสมจำนวน 2,688 ล้านบาท และในปี 2541-63 ขสมก.ขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 9,000 ล้านบาท โดยตามแผนฟื้นฟูกิจการที่จะมีการจัดหารถโดยสารปรับอากาศพลังงานไฟฟ้า (EV) จำนวน 2,511 คันนั้น ขสมก.จะจ่ายค่าเช่าตามกิโลเมตรที่ใช้งานจริง มีระยะเวลาเช่า 7 ปี และเมื่อนำมารวมกับการจัดหารถเมล์ NGV ที่เคยดำเนินการไปแล้ว 489 คัน ก็จะทำให้ ขสมก.มีรถเมล์รวม 3,000 คันในการให้บริการ ทั้งนี้ หากแผนผ่าน ครม.ภายในเดือน มิ.ย.นี้ ขสมก.จะเริ่มดำเนินการจัดหารถทันทีและขั้นตอนจัดหาต้องแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.63 และภายในเดือน มี.ค.64 ขสมก.จะรับมอบรถคันแรก และจะรับมอบครบทุกคันในเดือน ก.ย.65

ขออภัยในความไม่สะดวก ระบบกำลังตรวจสอบการใช้งาน กรุณาลองใหม่อีกครั้ง

Thairath Poll

สำรวจข้อมูลทางประชากรศาสตร์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์

ตำแหน่งงานปัจจุบันของคุณคืออะไร

การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)