นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่าย เศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้ยกระดับ โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (NEC) หรือเขตเศรษฐกิจสร้างสรรค์ล้านนาและเขตพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (NeEC) ขึ้นมาดำเนินการอย่างให้เป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง เนื่องจากทั้ง 3 โครงการเป็นการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่สามารถกระจายความเจริญและลดความเหลื่อมล้ำได้ ภายหลังจากโครงการการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทำให้เกิดโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา
“ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้วางแผนงานที่จะพัฒนาโครงการต่างๆ เหล่านี้อยู่แล้ว โดยมีสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นผู้ดำเนินการ แต่งานไม่คืบหน้าเท่าที่ควรเพราะไม่ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายอย่างชัดเจน ทำให้ขาดเจ้าภาพ แตกต่างจากโครงการอีอีซีที่มี 3 จังหวัดเป็นเจ้าภาพในฐานะเจ้าของพื้นที่ และมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เป็นผู้กำกับดูแลโครงการ”
นายกอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากต้องการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 3 ภาค นายสมคิดเสนอตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ ขึ้นมาคุมการบริหาร งานของ สกพอ. และเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 3 ภาค พร้อมกับเสนอให้มีกฎหมายกำกับดูแลเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้การขับ เคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ร่างแผนอยู่บนหน้ากระดาษ โดยจะมีการนำเรื่องดังกล่าวเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป.