ตีปี๊บเรียกประชุม “บอร์ดลงทุน”

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการเจรจาการค้าและการลงทุน เรียกประชุมรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและกรรมการที่เกี่ยวข้องนัดแรกทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งให้นายสมคิดเป็นประธาน โดยการประชุมจะจัดให้มีขึ้นวันนี้ (23 ม.ค.) และจะพิจารณามาตรการลงทุนในส่วนของกระทรวงการคลังที่จะเร่งรัดภาคเอกชนโดยให้เป็นมาตรการเพิ่มเติมที่ดีกว่ามาตรการที่กระทรวงการคลังมีอยู่คือ หักภาษีสำหรับการลงทุนในเครื่องจักรได้ 1.5 เท่าเพื่อเร่งรัดการลงทุนในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยเน้นที่นักลงทุนไทยให้มีการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการนำเข้าเครื่องจักร และสินค้าทุนซึ่งควรส่งเสริมให้เกิดการลงทุนมากขึ้นในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าอยู่ในขณะนี้ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตให้กับผู้ประกอบการไทย และจะช่วยแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่าได้รวมทั้งสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศในช่วงการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้าด้วย

ก่อนหน้านี้นายสมคิดได้มีการหารือเรื่องการเร่งรัดการเบิกจ่าย และขับเคลื่อนแผนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจทั้งในส่วนโครงการที่ล่าช้าในปี 2562 และโครงการที่จะทำในปี 2563 โดยกำชับไปยังผู้บริหารรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ เช่น บมจ. ปตท. บมจ.ท่าอากาศยานไทย ให้ลงทุนตามแผนที่วางไว้เพื่อให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจมากที่สุด ขณะเดียวกัน นายสมคิดได้เดินทางไปมอบการบ้านให้กับผู้บริหารธนาคารกรุงไทย พร้อมๆกับนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง โดยขอให้กรุงไทย ร่วมมือกับออมสินในการช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ข้าราชการ เพื่อลดภาระต่างๆที่มีอยู่ให้เร็วที่สุด ในช่วงที่เศรษฐกิจตึงตัว

ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า กรุงไทยพร้อมหารือออมสิน เพื่อหาแนวทางช่วยลูกหนี้กลุ่มข้าราชการเร่งด่วน เนื่องจากกลุ่มข้าราชการนอกจากจะเป็นลูกค้าของธนาคารกรุงไทยแล้ว ยังเป็นลูกค้าของธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ด้วย จึงต้องหาข้อสรุปร่วมกัน ส่วนการปรับลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้านั้น พร้อมนำไปพิจารณา แต่หากเป็นดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี หรือเอ็มแอลอาร์ และดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าทั่วไป หรือเอ็มอาร์อาร์ ธนาคารช่วยเหลือเอสเอ็มอีโดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำอยู่แล้ว.