คนจนใน “อีอีซี” ต้องหมดไปใน 3 ปี

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

คนจนใน “อีอีซี” ต้องหมดไปใน 3 ปี

Date Time: 7 ม.ค. 2563 09:19 น.

Summary

  • “สมคิด” สั่ง สกพอ.ร่วมมือ สศช.แก้ไขกฎหมายยกระดับ สกพอ.ดูแลเขตพัฒนาพิเศษทั่วประเทศ พร้อมจี้ให้เร่งสางโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 6.5 แสนล้านบาท ให้ลงทุนจริงปลายปีนี้ ลั่นถ้า“บินไทย” ไม่ทำ

Latest

อัปเดต 5 กลยุทธ์ขายของ พิชิตใจคน Gen Z อยากรักษ์โลก แต่ของมันต้องมี แบรนด์รับมืออย่างไร?

“สมคิด” จี้ลงเงินลงทุน 5 โครงสร้างพื้นฐานสิ้นปี

“สมคิด” สั่ง สกพอ.ร่วมมือ สศช.แก้ไขกฎหมายยกระดับ สกพอ.ดูแลเขตพัฒนาพิเศษทั่วประเทศ พร้อมจี้ให้เร่งสางโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 6.5 แสนล้านบาท ให้ลงทุนจริงปลายปีนี้ ลั่นถ้า“บินไทย” ไม่ทำ “เอ็มอาร์โอ” จะให้รายอื่นทำแทน ด้าน “คณิศ” ลั่นพัฒนาให้คนจนหมดไปจากพื้นที่อีอีซีใน 3 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ม.ค.63 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) โดยเชิญนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.หรือสภาพัฒน์) และนางดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เข้าร่วมด้วย โดยนายสมคิด เปิดเผยว่า ต้องการให้ สกพอ., สศช. และบีโอไอ ทำงานร่วมกันให้มากขึ้น ภายหลังจากเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ก้าวหน้าได้ดีมาก และมอบให้ สศช.

และ สกพอ.ดูแนวทางแก้ไข พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อ ยกระดับดูแลทุกเขตพัฒนาพิเศษทั่วประเทศ ซึ่งยังมีระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (เอสอีซี) ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว แต่ยังไม่คืบหน้า และระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ (เอ็นอีซี) ที่แนวคิดชัดเจนแล้ว เป็นต้น ส่วนกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน วงเงิน 10,000 ล้านบาท ที่บีโอไอดูแลและมีการใช้เงินน้อยมากนั้น หากไม่เร่งทำอะไรจะมอบให้กระทรวงการคลังดูแล เพื่อนำเงินมาใช้ดูแลเศรษฐกิจฐานรากต่อไป

ขณะที่ด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลักของอีอีซีทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่ากว่า 650,000 ล้านบาท ได้สั่งการให้ สกพอ.เร่งโครงการลงทุนให้ เสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะขั้นตอนการจัดหาเอกชน จะต้องทำให้เสร็จภายในไตรมาสแรกปีนี้ เพื่อให้การลงทุนเกิดขึ้นจริงในปลายปีนี้ อย่างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา แม้ขณะนี้รอคำตัดสินของศาลปกครอง แต่ให้เร่งจัดทำขั้นตอนอื่นๆที่สามารถทำได้ เพราะเมื่อเรื่องสิ้นสุดแล้ว จะได้เริ่มลงทุนทันที เช่นเดียวกับโครงการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (เอ็มอาร์โอ) ที่ล่าช้ามาก หากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ไม่ทำ มีรายใหม่ที่พร้อมเข้ามาทำแทน นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ สกพอ.ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่อีอีซีให้ดีขึ้นให้ได้ โดยตั้งคณะทำงานขึ้น 1 ชุด เพื่อออกมาตรการดูแลให้ครอบคลุมทั้งด้านเกษตร ท่องเที่ยว และผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) โดยต้องทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้ประโยชน์จากอีอีซี

“ชาวบ้านในพื้นที่ต้องไม่มีคำว่าอดอยาก เพราะผลไม้ในพื้นที่มีเยอะมาก และปีนี้จะกำชับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ต้องทำห้องเย็นให้เสร็จ ซึ่งการทำเรื่องทั้งหมดนี้จะมีคลัง, อุตสาหกรรม, ธ.ก.ส., บีโอไอ, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้ามาช่วยด้วย โดยคลังต้องเป็นฐานทำงาน ดูความยากจน อาจให้กรมธนารักษ์ที่มีที่ดินหลายแห่งมาทำเป็นสวน เป็นแหล่งท่องเที่ยว อุตสาห– กรรมช่วยเอาเครื่องจักรมาแปรรูปสินค้าเกษตร และเร่งรัดกระทรวงพลังงานดันโรงไฟฟ้าชุมชนให้เร็วขึ้น”

ด้านนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สกพอ. กล่าวว่า การดำเนินงานของอีอีซีปี 63 จะเน้นขยายการลงทุนสู่พื้นที่และชุมชน เพื่อสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนในพื้นที่อีอีซี สร้างงานให้คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ตั้งเป้าหมายทำให้ผู้มีรายได้น้อยราว 350,000 คน หรือ 14% ของประชากรทั้งหมดในอีอีซี 3.4 ล้านคน ต้องลดลงใน 3 ปี.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ