นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยระหว่างการมาเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงว่า ตั้งใจมาให้กำลังใจเป็นการส่วนตัวกับผู้บริหารสูงสุด คือนางแครี่ แลม ที่ถือเสมือนมิตรสนิทที่นับถือ ในยามที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่คนในสังคมมีความขัดแย้งทางความคิด จนลุกลามเป็นความขัดแย้งในสังคมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเพื่อสานต่อความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับเกรเตอร์ เบย์ แอเรีย (GBA) ซึ่งประกอบด้วยมณฑลกวางตุ้ง ฮ่องกง มาเก๊า ในทุกมิติ ที่มีความเชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์ให้แก่ภูมิภาคเอเชียโดยรวม “GBA ในสายตาผม มาพร้อมกับบทบาทสำคัญ 2 นัยยะ ด้านหนึ่งเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำเทคโนโลยี และนวัตกรรมของโลก เป็นเบ้าหลอมสร้างผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ทรงพลังระดับ unicorn และเป็นศูนย์กลางภาคการเงินและโลจิสติกส์ของโลกอย่างแท้จริง ขณะที่อีกบทบาทคือเป็นหัวหอกสำคัญของจีนในการเชื่อมโยงความร่วมมือการพัฒนาในทุกมิติกับโลกภายนอก ตามแนวทาง belt and road ของจีน โดยเฉพาะผ่านไทยสู่อาเซียน จะเป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ทุกฝ่ายล้วนได้ประโยชน์ตามเจตนารมณ์ของ belt and road
นางแครี่ แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กล่าวว่า ตั้งเป้า ให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางของเขต GBA ใน 4 ด้าน โดยพัฒนาจากศักยภาพที่ฮ่องกงมีอยู่ ได้แก่ 1.เป็นศูนย์กลางการเงินลำดับที่ 3 ของโลก ลำดับที่ 1 ของเอเชีย เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญลำดับที่ 6 ของโลก ด้วยจุดแข็งด้านสถานที่ตั้งและกฎหมายของฮ่องกง 2.เป็นศูนย์กลางการบินโดยเป็นสนามบินลำดับที่ 3 ของโลก (74 ล้านคน) และเป็นแหล่งขนส่งคาร์โก้ลำดับที่ 1 (5 ล้านตัน) และกำลังขยายท่าอากาศยาน เชื่อมโยงจุดหมายปลายทางกว่า 200 แห่งทั่วโลกเข้าด้วยกัน 3.เป็นศูนย์กลางของบริการที่มีความเป็นมืออาชีพระดับโลก 4.เป็นศูนย์การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม โดยมหาวิทยาลัย 3 แห่งในฮ่องกงติดท็อป 50 ของโลก โดยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์ และการวิจัยพัฒนา.