นายอดิทัต วะสีนนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยถึงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) ประจำเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 100.58 หดตัวลง 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาที่เอ็มพีไออยู่ที่ 105.22
ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 65.75% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 69.11% โดยปัจจัยหลักๆยังมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยจากสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน รวมถึงประเทศอื่นๆที่เริ่มมีคู่ขัดแย้งมากขึ้น ประกอบกับค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลต่อการส่งออกสินค้าของหลายๆกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่รวมทองคำ ล่าสุดก็หดตัวลง 9.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สศอ.ยังคาดหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐวงเงิน 316,813 ล้านบาท รวมถึงมาตรการชิมช้อปใช้ จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยช่วงที่เหลือของปีนี้หรือต้นปี 2563 มีแรงส่งที่จะไม่ให้มีการชะลอตัวต่อเนื่อง หรือหากโชคดีก็อาจทำให้ฟื้นตัวมากขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของกำลังซื้อในประเทศ ยอมรับว่าหากภาวะเศรษฐกิจยังไม่มีทิศทางเป็นบวก ก็มีความเป็นไปได้ที่ สศอ.จะต้องทบทวนปรับประมาณการดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรมปีนี้ลดลง จากปัจจุบันที่ประเมินว่าตลอดทั้งปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 0-1%.