ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ก.ย.) เวลา 10.00 น. น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปที่กรมวิชาการเกษตร หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ประกาศแบน 3 สารเคมีที่ใช้ในการเกษตร คือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ซึ่ง น.ส.มนัญญาได้สั่งให้กรมวิชาการเกษตรรายงานสต๊อก 3 สารเคมีที่มีอยู่
แต่กลับยังไม่รายงานให้รับทราบ ทำให้ น.ส.มนัญญาต้องเดินทางไปที่กรมวิชาการเกษตร โดยไม่มีการบอกล่วงหน้าเพื่อทวงถามด้วยตัวเอง พร้อมได้ประกาศที่กรมวิชาการเกษตร ว่า ตนเอง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ ที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร หากไม่เชื่อฟัง ก็ให้ใครที่มีอำนาจมาปลดตนเองออกจากตำแหน่งก่อน จะได้ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับการพิจารณาเรื่อง 3 สารเคมีอันตราย แต่ถ้ายังกำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร ก็ต้องเชื่อฟัง และในที่สุด น.ส.มนัญญากล่าวว่า ได้รับเอกสาร
สต๊อกสารเคมีแล้ว
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. น.ส.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้เดินทางมายังกระทรวงเกษตรฯเพื่อร่วมประชุม เพื่อเตรียมฟื้นฟูและเยียวยาน้ำท่วม โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการบุกสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เพื่อทวงข้อมูลสต๊อกสารเคมีดังกล่าว น.ส.เสริมสุขไม่ได้ตอบอะไร แต่แสดงสีหน้าบึ้งตึงก่อนจะบอกว่า ไม่รู้เรื่อง ว่า น.ส.มนัญญาเดินทางไปทวงข้อมูลสต๊อกสารเคมี
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเช่นกัน และยังไม่ได้รับรายงานถึงกรณีที่ น.ส.มนัญญาเดินทางไปทวงเอกสารสต๊อกสารเคมีด้วยตนเอง เพราะไม่มีการแจ้งล่วงหน้า จึงต้องสอบถามความเป็นจริงจาก
น.ส.เสริมสุขก่อน เพราะอาจมีเรื่องที่เข้าใจไม่ตรงกัน และต้องนัด น.ส.เสริมสุขเพื่อเข้าพบ รมช.เพื่อชี้แจงการทำงาน “ในฐานะปลัด พ่อของน้องๆของอธิบดีและข้าราชการในกรม ยอมรับว่ากังวลเรื่องของความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน จะต้องพา น.ส.เสริมสุข เข้าพบ น.ส.มนัญญา เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข และเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ น.ส.มนัญญา สังกัด ได้ยืนยันไม่ให้มีการใช้สารพิษทางการเกษตรทั้ง 3 ชนิด เพราะมีคนเจ็บคนป่วยจากสารพิษเหล่านี้ ขณะที่ น.ส.มนัญญาก็ได้ประชุมร่วมกับเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง 686 องค์กร โดยระบุว่า การแบนสารพิษ 3 ชนิด จะจบ ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมมีมาตรการทดแทนสารเคมี โดยใช้วิธีทางเลือกการทำเกษตรที่ปลอดภัย และจะสรุปความเห็นของคณะทำงานศึกษาผลกระทบ การใช้สารเคมี และลงนาม เพื่อส่งไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตราย กระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาและมีมติต่อไป.