เล็งของบท่องเที่ยวเพิ่ม 1.5 หมื่นล้าน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เล็งของบท่องเที่ยวเพิ่ม 1.5 หมื่นล้าน

Date Time: 16 ส.ค. 2562 08:24 น.

Summary

  • “พิพัฒน์” เล็งของบกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มอีก 15,000 ล้านบาท ขณะที่รอลุ้น ครม.เศรษฐกิจเคาะแจกเงินคนไทย 10 ล้านคนเที่ยวไทยว่าจะเป็น 1,000 บาท หรือ 1500 บางต่อคน

Latest

“ชรินทร์” พลิกฟื้น “เดอะ ทวิน ทาวเวอร์” “รัดเข็มขัด” สร้างกำไรจุดขายใหม่ย่านบรรทัดทอง

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างเงินหมุนเวียนแสนล้าน

“พิพัฒน์” เล็งของบกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มอีก 15,000 ล้านบาท ขณะที่รอลุ้น ครม.เศรษฐกิจเคาะแจกเงินคนไทย 10 ล้านคนเที่ยวไทยว่าจะเป็น 1,000 บาท หรือ 1500 บางต่อคน ด้าน “อุตตม” คุยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยให้มีเม็ดเงินหมุน เวียนในระบบกว่า 100,000 ล้านบาท เน้นกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านภาคการเกษตร–ท่องเที่ยว–เอสเอ็มอี ชี้ถ้าฟื้น “ช็อปช่วยชาติ” รูปแบบอาจไม่เหมือนเดิม ขณะที่นักลงทุน “สหรัฐ-อเมริกา–อาเซียน” ยังเชื่อมั่นไทย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ จะพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เสนอโดยกระทรวงการคลัง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว โดยแจกเงินผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป นำไปใช้ในการท่องเที่ยว ซึ่งจะได้พิจารณาให้ชัดว่าจะให้คนละ 1,000 บาท หรือ 1,500 บาท ซึ่งถือเป็นมาตรการหลัก มีเงื่อนไขคือต้องใช้เงินเที่ยวในพื้นที่ที่ไม่ใช่ภูมิลำเนาของผู้มีสิทธิ โดยเมื่อมีมติอนุมัติออกมาแล้วจะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายมาใช้สิทธิ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของเงินได้หลายรอบมากขึ้น และกว้างขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้เตรียมมาตรการเสริมอีก โดยจะขอให้รัฐบาลจัดงบประมาณเพิ่มให้อีก 15,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการใน 3 มาตรการที่จะเสริมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น โดยได้เตรียมเอกสารเสนอเข้าที่ประชุม ครม. วันที่ 20 ส.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นมาตรการที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในช่วงปลายปี หรือ 4 เดือนสุดท้ายของปี คือเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้สรุปชัดเจนแล้ว 1 มาตรการ คือ มาตรการสินค้าท่องเที่ยวทุกอย่าง และทุกสถานที่ในราคา 100 บาท ในทุกวันที่ 9 เดือน 9, วันที่ 10 เดือน 10, วันที่ 11 เดือน 11 และวันที่ 12 เดือน 12 ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือกับภาคเอกชน อาทิ โรงแรม ตั๋วการบิน กินอาหาร เพื่อมาร่วมทำโปรโมชัน สินค้าท่องเที่ยว 100 บาททุกอย่างด้วย โดยการซื้อหรือเข้าร่วมกิจการจะซื้อผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารกรุงไทย และกำลังพิจารณาว่าจะขยายเพิ่มช่องทางการร่วมโครงการกับแอปพลิเคชันของธนาคารพาณิชย์ด้วย

ส่วนมาตรการที่ 2 จะเป็นโครงการลดราคาสินค้าแบบให้ส่วนลดเพิ่มหรือออนท็อป 15% จากราคาสินค้าที่ลดอยู่แล้ว เช่น โรงแรมมีการลดค่าห้องลง 50% มาตรการนี้จะให้ส่วนลดเพิ่มอีก 15% รวมเป็นลดให้ 65% ซึ่งมาตรการนี้ยังไม่สรุปในรายละเอียด แต่ทั้งมาตรการที่ 2 และมาตรการที่ 3 จะเป็นมาตรการคล้ายกันคือ การลด แลก แจก แถม เพื่อจูงใจให้มีการใช้จ่ายเงินในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังที่จะเข้าที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจนั้น ทุกมาตรการที่ออกมาจะกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและการลงทุน โดยคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท แต่งบประมาณที่จะใช้นั้นจะมีวงเงินไม่ถึง 100,000 ล้านบาท

โดยเป็นเงินจากงบกลางปี และเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเน้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ได้แก่ 1.มาตรการช่วยเหลือภาคเกษตร โดยช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง และสนับสนุนเกษตรกรในการเพาะปลูก 2.มาตรการกระตุ้นการลงทุน โดยการดูแลสภาพคล่องของผู้ประกอบการรายย่อยและขนาดกลาง (SME) ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น และ 3.มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว แจกเงินคนอายุ 18 ปีขึ้นไป เป้าหมาย 10 ล้านคน โดยอุดหนุนเงินให้นำไปท่องเที่ยวคนละ 1,500 บาท วงเงิน 15,000 ล้านบาท โดยไม่จำกัดว่าจะต้องท่องเที่ยวเฉพาะเมืองรองเท่านั้น

“มาตรการทั้งหมดที่ออกมาจะต้องใช้เงินภายในปีนี้ เพื่อดูแลเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี ทำให้คนกล้าลงทุนและทำให้นักลงทุนเห็นว่าไทยเดินหน้าต่อไปได้ โดยขณะนี้เศรษฐกิจไทยกำลังได้รับความผันผวนจากเศรษฐกิจโลกและมีแนวโน้มถดถอย ดังนั้นไทยต้องไม่ประมาทต้องเตรียมตัวไว้ เพราะถ้าการส่งออกไม่ดีเศรษฐกิจจะซบเซา”

อย่างไรก็ตามถามถึงเรื่องช็อปช่วยชาติที่เคยให้ซื้อของและนำมาลดหย่อนภาษี 15,000 บาท จะนำมาใช้ใหม่หรือไม่นั้น นายอุตตม กล่าวว่าถ้าจะมีช็อปช่วยชาติอีกครั้งรูปแบบจะไม่เหมือนเดิม แต่ในตอนนี้ยังตอบเรื่องรูปแบบอะไรไม่ได้ ขอให้ผ่าน ครม.เศรษฐกิจก่อน ซึ่งมาตรการที่ออกมาจะกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแน่นอน

ส่วนกรณีสมาคมสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียนเข้ามาพบนั้น นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจหลังจากรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อสภาฯ และพร้อมลงทุนในไทยเพิ่มในระยะยาว โดยเฉพาะด้านการวิจัยและพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยี และการเงินดิจิทัล “นักลงทุนได้ถามผมว่าทิศทางนโยบายรัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไร ซึ่งผมได้บอกไปว่า รัฐบาลใหม่พร้อมปฏิรูปปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจของไทย ยกตัวอย่าง โครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งรัฐบาลจะพัฒนาดิจิทัล เพื่อให้เข้าถึงระบบฐานรากของประเทศ

ทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล การต่อยอดระบบการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Playment เป็นต้น”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ