นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า กังวลรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ที่อยู่ในขั้นตอนร่างสัญญา และตามกำหนดเดิมจะลงนามกับผู้ชนะประมูลสิ้นเดือน ก.ค.นี้ จึงขอให้ดูรายละเอียดให้รอบคอบ โดยเฉพาะการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างที่จะต้องเข้าใจตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อไม่ให้มีปัญหาสัญญาในอนาคต “ถ้าลงนามแล้ว เราส่งมอบพื้นที่ไม่ได้ตามกำหนด หรือตามที่เอกชนเข้าใจจะมีปัญหา จึงฝากให้ รฟท.ดูว่าปัญหาบุกรุกอยู่ส่วนใด และส่งมอบพื้นที่ได้เมื่อไหร่ ก่อนลงนามอะไรมาคุยกับผมอีกรอบ เรื่องการลงนามจะทันเดือน ก.ค.นี้หรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น วันนี้อยากให้รอบคอบ”
ด้านนายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า ส่งรายละเอียดแผนส่งมอบพื้นที่ให้กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร หรือกลุ่มซีพีไปแล้ว ขณะนี้ซีพีอยู่ระหว่างนำข้อมูลไปเทียบกับรายละเอียดแผนก่อสร้าง เพื่อจัดทำข้อมูลให้ตรงกัน หากแผนส่งมอบและแผนก่อสร้างสอดคล้องกันสามารถนัดวันลงนามสัญญาได้ โดยเบื้องต้นยังกำหนดลงนามสัญญาเดือน ก.ค.นี้ แต่หากไม่ทันจะรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบว่า รฟท.ดำเนินการตามขั้นตอนมาตลอด แต่การลงนามสัญญาต้องรอบคอบ “ถ้าลงนามไม่ทันตามกำหนด ไม่ถือเป็นเรื่องผิดพลาด ที่ผ่านมาทำงานกันมาตลอดและงานคืบหน้าตามขั้นตอน แต่ต้องใช้เวลาพิจารณารายละเอียด เรื่องส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างมีข้อมูลมาก หากซีพีดูข้อมูลแล้วไม่เข้าใจตรงกัน อยากจะลงพื้นที่สำรวจเพิ่มเติมก็ได้ หรือถ้าเข้าใจตรงกันแล้ว ก็นัดลงนามได้เลย”
นายวรวุฒิ กล่าวว่า ที่ผ่านมา รฟท.ลงพื้นที่สำรวจแนวก่อสร้างโครงการ พร้อมตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่และดูความเป็นไปได้ที่จะคืนพื้นที่เพื่อก่อสร้างโครงการก่อนนำมาจัดลำดับกรอบเวลาส่งมอบพื้นที่ให้กับเอกชน ซึ่งพบว่าพื้นที่ที่มีปัญหาบุกรุกส่วนใหญ่อยู่ในเขตก่อสร้างช่วงบางซื่อ-หัวหมาก หากซีพียังไม่มีแผนก่อสร้างด่วนในพื้นที่นี้ ก็ถือว่าแผนสอดคล้องกัน และลงนามสัญญาได้ ส่วนผู้รับผิดชอบทุบเสาโฮปเวลล์ในร่างสัญญาระบุว่าสิ่งกีดขวางเอกชนต้องรื้อถอน เพราะรัฐสนับสนุนงบประมาณส่วนนี้ไว้ในเงินอุดหนุนโครงการอยู่แล้ว แต่ รฟท.และซีพียังไม่ได้ข้อสรุปตรงกันอาจต้องหารือกันอีกครั้งก่อนลงนามสัญญา แต่หากซีพีไม่รื้อถอน อาจหักเงินส่วนนี้ออกจากเงินอุดหนุนโครงการ.