ชานมไข่มุกโมจิแป้งข้าวไทยสไตล์ "แบร์เฮาส์"

“ทำสิ่งที่ชอบให้เป็นอาชีพที่ใช่” เป็นหัวใจสำคัญสำหรับการประกอบอาชีพและการทำธุรกิจ เพราะหากเรามีความชอบส่วนตัว หรือ Passion ให้กับสิ่งที่เราทำก็จะเป็นพลังบวกให้เกิดความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ และประสบความสำเร็จได้ในที่สุด!

Business On My Way สัปดาห์นี้อาสาพาไปรู้จักกับร้านชานมไข่มุกสุดฮอตของไลฟ์สไตล์ยูทูบครีเอเตอร์จากช่อง BEARHUG ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 2.8 ล้านคน “ซารต์-ปัทมพร (Sunbeary)” และ “กานต์-อรรถกร” ที่พลิกความชอบสู่การเปิดร้าน “BEARHOUSE Fresh Boba Milk Tea” ร้านชานมไข่มุกน้องใหม่พิกัดสยามสแควร์ ถนนอังรีดูนังต์ ที่สร้างปรากฏการณ์ต่อแถวรอซื้อในแบบที่เรียกว่าคิวทะลัก!กันเลยทีเดียวเชียว

“ซารต์” (ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช) หนึ่งในผู้ก่อตั้งร้าน BEARHOUSE เล่าว่า จุดเริ่มต้นของร้านชานมไข่มุก BEARHOUSE เกิดขึ้นจากความชอบรับประทานชานมไข่มุก รวมถึงการมีอาชีพเป็นยูทูบครีเอเตอร์ เจ้าของ Channel BEARHUG ซึ่งเป็นช่องที่นำเสนอคอนเทนต์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวและอาหาร ทำให้มีโอกาสได้ไปรีวิวชานมไข่มุกที่ประเทศไต้หวันแล้วรู้สึกติดใจ ก็เลยคิดขึ้นมาว่า “ทำไมเราไม่ทำชานมไข่มุกแบรนด์คนไทย ให้คนต่างชาติต่อแถวรอซื้อบ้าง?”

หลังจากนั้น “ซารต์” ได้ปรึกษากับ “กานต์-อรรถกร” ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์คนสนิทที่มีความสนใจและความชอบคล้ายกัน จนเกิดเป็นไอเดียที่จะทำธุรกิจชานมไข่มุกร่วมกัน และด้วยนิสัยที่อยากทำอะไรต้องทำเลย จึงตัดสินใจไปเรียนทำไข่มุกสูตรเฉพาะ ลองผิด ลองถูก ปรับสูตรด้วยตัวเอง ส่วนสูตรชาก็คิดเองทั้งหมด พยายามใช้วัตถุดิบในประเทศไทยเป็นหลัก จนในที่สุดก็เปิดร้านชานมไข่มุก BEARHOUSE สาขาแรกที่สยามสแควร์ ถนนอังรีดูนังต์

สำหรับสไตล์และรสชาติของเครื่องดื่มร้านมาพร้อมคอนเซปต์ “เรียบง่ายแต่แตกต่าง” อร่อยกับเครื่องดื่มรสชาติกลมกล่อมสูตรพิเศษ พร้อมไข่มุกโมจิสูตรเฉพาะที่ผสมผสานความเป็นไทย คิดค้นและทำเองด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่ผงแป้ง ด้วยจุดเด่นคือ มีแป้งข้าวไทยเป็นส่วนประกอบ และปั้นสดใหม่ทุกวัน ทำให้ไข่มุกของ BEARHOUSE มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และให้สัมผัสที่แตกต่าง เคี้ยวนุ่ม หนึบหนับ มีกลิ่นโมจิ มีสีและรูปทรงตามธรรมชาติ และมีขนาดเพียง 7 มิลลิเมตร ซึ่งเล็กกว่าไข่มุกทั่วไป โดยเมนูยอดนิยม ได้แก่ ชานมไข่มุก นมน้ำตาลแดง ชาเขียวมัทฉะ และโกโก้

“ร้าน BEARHOUSE เริ่มต้นจากชานมไข่มุกในแบบธรรมดาๆ เรียบง่ายแต่แตกต่าง โดยมีไข่มุกสูตรเฉพาะเป็นซิกเนเจอร์ เนื่องจากเป็นไข่มุกปั้นสดเป็นไข่มุกสีขาวเนื้อจะหนึบๆ มีส่วนผสมของข้าวไทยคล้ายโมจิ กระบวนการทำคล้ายๆกับร้านเบเกอรีที่จะต้องอบขนมปังใหม่ทุกเช้า เพราะทีมงานต้องตื่นขึ้นมาทำแป้งไข่มุกเตรียมไว้ตั้งแต่ตีสี่ ตอนนี้เราผลิตไข่มุกโมจิได้วันละ 70-80 กก. มาส่งหน้าร้านวันละ 2 รอบก็ยังไม่เพียงพอ” ซารต์ กล่าว

เช่นเดียวกับเครื่องดื่ม “ซารต์” บอกว่า ได้ทดลองค้นหารสชาติที่ตัวเองคิดว่าใช่ ด้วยการตระเวนชิมชาแทบจะทุกยี่ห้อที่วางขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชานมไข่มุกของเราไม่เน้นรสชาติเข้มข้นกระแทกในคำแรก แต่เน้นกินได้เรื่อยๆจนหมด

ด้าน “กานต์” (อรรถกร รัตนารมย์) อีกหนึ่งผู้ร่วมก่อตั้งร้าน ซึ่งช่วยดูแลด้านการตลาด กล่าวเสริมว่า จากประสบการณ์ที่เราได้ไปรีวิวสถานที่เที่ยว สถานที่กินมามากกว่า 3 ปี ทำให้ได้ซึมซับความอร่อยของอาหารและขนมจากที่ต่างๆมามากมาย โดยเฉพาะ “ซารต์” ซึ่งเป็นบุคคลเบื้องหน้าที่จะต้องชิมอาหารและถ่ายทอดออกมาให้คนดูได้รับรู้และเห็นภาพตาม ดังนั้นเมื่อเราคิดที่จะทำร้านชานมไข่มุก จึงต้องพิถีพิถันมากในการคิดค้นและพัฒนาสูตรไข่มุกที่ไม่เหมือนใคร โดยเรียกว่า “ไข่มุกโมจิ” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักและเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ BEARHOUSE เพื่อพัฒนาต่อยอดเป็นเมนูขนมหวานประเภทอื่นๆต่อไปในอนาคต

ร้าน BEARHOUSE เปิดขายอย่างไม่เป็นทางการมาตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.62 มียอดขายเฉลี่ยประมาณ 400-800 แก้วต่อวัน และเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.62 ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มเป็น 1,000 แก้วต่อวัน พร้อมกับการแนะนำสินค้าใหม่ล่าสุด คือ ไอศกรีม 4 รสชาติ ได้แก่ รสชานมอัสสัมป่า 100 ปี รสชาดำยูซุรีเฟรชเชอร์ รสนมบราวน์ชูก้าแบร์เฮาส์ และรสนมพรีเมียมแบร์เฮาส์ โดยราคาชาเริ่มต้นที่ 55-100 บาท เพิ่มไข่มุกบวกอีก 10 บาท ส่วนไอศกรีมจะเปิดขายเร็วๆนี้ ในราคา 79 บาท

“การเป็นยูทูบเบอร์เป็นความสุขของพวกเรา ขณะเดียวกันร้าน BEARHOUSE ก็เป็นธุรกิจที่เราอยากทำเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ตั้งใจที่จะทำให้เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่ทำตามกระแส และไม่คิดว่าจะเปิดร้านชานมไข่มุกเพื่อขายให้แฟนคลับ แต่เราอยากขายของอร่อยๆ ให้คนที่ชอบกินชาไข่มุกเหมือนเรา” กานต์ ทิ้งท้าย.