นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “บางจาก B20 สำหรับใช้ในรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล และเพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ลดฝุ่น ประหยัดเงิน” ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขาพระราม 2 กม. 12 ว่า ในสัปดาห์หน้ากรมธุรกิจพลังงานจะออกประกาศเรื่องมาตรฐานน้ำมัน B10 เพื่อให้น้ำมัน B10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐานของประเทศไทย ซึ่งต้องมีจำหน่ายในปั๊มทั่วประเทศ เพื่อทยอยลดสัดส่วนการใช้น้ำมัน B7 ในอนาคต แต่จะยังคงมีน้ำมัน B7 เกรดพรีเมียม จำหน่ายหน้าปั๊มต่อไปอีกระยะหนึ่ง
“ในอนาคตน้ำมัน B7 และ B7 เกรดพรีเมียม จะทยอยหายไปจากการจำหน่ายของผู้ค้าน้ำมันในไทย และมีน้ำมัน B10 กับ B20 เข้ามาทดแทน โดยราคา B10 จะถูกกว่า B7 ลิตรละ 3 บาท และน้ำมัน B20 ถูกกว่าลิตรละ 7 บาท ทั้งหมดจะเห็นภาพชัดเจนภายใน 3 - 5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าหมายให้ไทยจำหน่าย B20 เป็นน้ำมันพื้นฐานรายแรกในอาเซียน เพื่อลดภาระการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการอุดหนุนหรือชดเชยส่วนต่างราคาของน้ำมันชนิดนี้”
ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปั๊มจำหน่าย B20 ทุกแห่งรวมทั้งสิ้น 310 แห่ง ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ขยายเวลามาตรการลดราคาน้ำมันดีเซล B20 ให้ถูกกว่าดีเซลปกติลิตรละ 5 บาท ต่อไปอีก 2 เดือน จนถึงวันที่ 31 ก.ค.2562 ทั้งนี้ มาตรการต่างๆที่กระทรวงพลังงานดำเนินการ ส่งผลให้มีการใช้น้ำมันปาล์มดิบในประเทศผลิตไบโอดีเซล 1.5 ล้านตันต่อปี และคาดว่าปีนี้ทั้งปีจะใช้ปริมาณปาล์มรวม 2 ล้านตันต่อปี จากปีที่ผ่านมามีความต้องการใช้เพียง 1.2 ล้านตันเท่านั้น นอกจากนี้ กระทรวงมีนโยบายขยายการใช้น้ำมัน B20 ไปยังกลุ่มรถยนต์ดีเซลขนาดเล็ก นอกจากปัจจุบันมีอีซูซุและโตโยต้า ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายรถกระบะที่มียอดขายรวมกันเกือบ 70% ของตลาดรถกระบะโดยรวม ได้ประกาศรุ่นรถกระบะที่สามารถใช้น้ำมันดีเซล B20 ได้รวมกันมากถึง 97 รุ่น
ด้านนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากให้ความร่วมมือขยายจำนวนสถานีบริการที่จำหน่ายน้ำมันดีเซล B20 อย่างต่อเนื่องครอบคลุมทุกภูมิภาค เพื่อช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบล้นตลาดส่งผลให้ราคาปาล์มตกต่ำมากที่สุดในรอบ 20 ปี รวมทั้งยืนยันมีความพร้อมผลิต B10 ตามนโยบายรัฐบาลด้วย.