อีอีซีโรดโชว์เชื่อมมณฑลเหอหนาน

นายกฯเยือนจีนปลาย เม.ย. ดันไทยเป็นประตูสู่อาเซียน

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.หรือสำนักงานอีอีซี) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 8-11 เม.ย.ที่ผ่านมา สกพอ.ได้เข้าร่วมเวทีสัมมนา “การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ ครั้งที่ 13” (The 13th China Henan international & Trade Fair) ที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นเวทีที่จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับนานาชาติ ทาง สกพอ.จึงใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้นักลงทุนจากมณฑลเหอหนานของจีนและทั่วโลก เข้าลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

“ก่อนหน้านี้ ผู้ว่าการมณฑลเหอหนานได้มาเยือน ประเทศไทย และเข้าพบกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตอกย้ำว่าเหอหนานเป็นเป้าหมายของนักลงทุนไทยมานานกว่า 1 ทศวรรษ ซึ่งเห็นภาพชัดจาก 2 ปีก่อน ที่สายการบินไทยสมายล์ ได้เปิดเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ-เจิ้งโจว และการจัดงานครั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้นำนักลงทุนเจ้าของสินค้าที่มีศักยภาพมาร่วมงานด้วย 54 บูธ ขณะที่ในปลายเดือน เม.ย.นี้ นายสมคิดจะเดินทางไปยกความสัมพันธ์ระหว่างมณฑลเหอหนานกับประเทศไทย และจะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ 2 ฉบับ ได้แก่ ความร่วมมือระหว่าง สกพอ.กับรัฐบาลมณฑลเหอหนาน และความร่วมมือระหว่าง สกพอ.กับคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษอากาศยานเจิ้งโจว”

เลขาธิการ สกพอ. กล่าวว่า ได้วางเป้าหมายให้สนามบินอู่ตะเภาเป็นมหานครการบิน ก็จะเชื่อมกับมหานครการบินเจิ้งโจว และทั้งสองสนามบินจะกลายเป็นประตูเชื่อมจีนสู่อาเซียน ทั้งทางด้านการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุน โดยในเบื้องต้นจะประสานให้ทางมณฑลเหอหนานและสนามบินเจิ้งโจว เอาธุรกิจคาร์โก้ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก มาลงทุนรอบๆสนามบินอู่ตะเภา และในระยะต่อไปพื้นที่บริเวณ 30×30 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.)โดยรอบจะกลายเป็นมหานครการบินอู่ตะเภาที่มีอุตสาหกรรมอยู่ล้อมรอบ เช่นเดียวกับมหานครการบินเจิ้งโจว ที่วางระบบการขนส่งเพื่อรองรับพื้นที่อุตสาหกรรม 20×20 ตร.กม.โดยรอบสนามบิน

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation-BRF) ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 26 -27 เม.ย.นี้ ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งในโอกาสนี้นายกฯจะขยายความร่วมมือเพื่อส่งเสริมนโยบายประเทศไทย 4.0 นโยบายการพัฒนาอีอีซี ที่จะเชื่อมต่อกับระเบียงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค และการยกระดับสถานะไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางโลจิสติกส์ คมนาคม และการขนส่งของอาเซียน และเป็นประตูสู่อาเซียนของจีน นอกจากนี้ จะหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อ เฉียง และรองนายกรัฐมนตรีหาน เจิ้ง เพื่อสานต่อและผลักดันความร่วมมือจีน-ญี่ปุ่น ในเขตพัฒนาอีอีซี และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับจีนในอนุภูมิภาคและภูมิภาคด้วย.