ททท.จับมือเอกชนไทย-เมียนมา จัดงานกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวเมียนมา ที่กรุงย่างกุ้ง ตั้งเป้าเพิ่มกำลังซื้อ จำนวนทัวร์เมียนมาให้เข้ามาไทย เพราะเมียนมาเป็นนักท่องเที่ยวหลักของอาเซียนที่เข้ามาในไทย เผยเชียงใหม่ เชียงราย พัทยา เป็นสถานที่ฮอตฮิตของคนเมียนมา พร้อมทัวร์ตรวจสุขภาพโรงพยาบาลดังๆในไทย ปลายปีนี้จัดอีกรอบหนึ่งเน้นเจาะกลุ่มไฮโซคนรวย
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศในประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะการเติบโตของเศรษฐกิจของภูมิภาคสหภาพยุโรป (อียู) ที่ยังอ่อนไหว ททท.จึงต้องเร่งทำตลาดเพื่อชดเชยนักท่องเที่ยวจากอียู หันมาเน้นนักท่องเที่ยวจากอาเซียนให้มากขึ้น ซึ่งรายได้จากกลุ่มนักท่องเที่ยวอาเซียนพบว่า นักท่องเที่ยวของเมียนมา เป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่เติบโตต่อเนื่อง ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเมียนมาเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยรวม 387,722 คน
“เมื่อปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ททท.ได้จัดงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ทราเวล แฟร์ 2019 โดยนำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากประเทศไทย และผู้ประกอบการท่องเที่ยวเมียนมา จำนวน 25 ราย อาทิ กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์, กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล บีดีเอ็มเอส, เซ็นทรัลกรุ๊ป, บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด ฯลฯ เพื่อร่วมกันประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว การบริการทางการท่องเที่ยวของไทย ในศูนย์การค้า Junction City ณ กรุงย่างกุ้ง เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเมียนมาที่เป็นคนรุ่นใหม่ ให้มาเที่ยวจับจ่ายสินค้าและบริการในประเทศ ไทยมากขึ้น”
ทั้งนี้ ปรากฏว่า ประชาชนเมียนมาสนใจสอบถามและซื้อแพ็กเกจทัวร์แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง อาทิ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ เมืองพัทยา และซื้อแพ็กเกจทัวร์ตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลชั้นนำของไทย อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลพระราม 9 รวมทั้ง ททท. ยังได้ทำการติดสติกเกอร์รถ Grab Taxi เป็นลายอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ที่เป็นลวดลายไทย, ภาพบรรยากาศท้องทะเล และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จำนวน 50 คัน วิ่งรอบกรุงย่างกุ้งเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อสร้างการรับรู้ของคนเมียนมาให้รู้จักประเทศไทย
นางกุลปราโมทย์ วรรณเลิศ ผู้อำนวยการ กองตลาดอาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า งานดังกล่าว ช่วยสร้างการรับรู้แหล่งท่องเที่ยวของไทยให้แก่ชาวเมียนมาได้ 1 ล้านคน และมีผู้เข้าชมงาน 70,000 คนต่อวัน มีเงินสะพัดในงาน 4 ล้านบาท จึงมั่นใจว่า ปีนี้จะมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวเมียนมาที่เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยวหน้าใหม่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ชาวเมียนมานิยมมาท่องเที่ยวมากที่สุด รองมาคือ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และไต้หวัน ตามลำดับ แต่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองไทยส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มอายุ 40-60 ปี และเป็นกลุ่มคนที่มาท่องเที่ยวพักผ่อนเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ททท.จึงต้องหันไปจับตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ และปลายปีนี้ ททท.จะจัดงานโปรโมตการท่องเที่ยวไทยในกลุ่มสินค้าและบริการระดับลักชัวรี สำหรับกลุ่มนักธุรกิจและบุคคลในสังคมชั้นสูงเมียนมา เพื่อกระตุ้นตลาดเมียนมาให้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยมากขึ้น โดยตั้งเป้าให้นักท่องเที่ยวเมียนมาเข้าจับจ่ายซื้อ
สินค้าและบริการในไทยเพิ่มขึ้นอีก 3-5% จากปัจจุบันที่มีอัตราค่าใช้จ่าย 50,000 บาทต่อคนต่อทริป 5 วัน โดยกลุ่มสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ อาหารไทย เสื้อผ้า นวดแผนไทยและสปา เครื่องสำอางผลิตภัณฑ์เสริมสวย ตรวจสุขภาพและการรักษาพยาบาล.