ผู้ส่งออกเนื้อไก่ และสัตว์ปีกของไทย เฮ! อียูเพิ่มปริมาณโควตานำเข้า มีผล 1 เม.ย. เป็นต้นไป มั่นใจครองสัดส่วนส่งออก อันดับ 1 และ 2 ในอียู ได้แน่นอน...
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนมี.ค.62 คณะกรรมาธิการยุโรปได้ออกระเบียบ เพื่อกำหนดปริมาณโควตาสินค้าเนื้อไก่และสัตว์ปีก ซึ่งสหภาพยุโรป (อียู) จัดสรรให้กับประเทศบราซิล ไทย และประเทศที่สามอื่นๆ โดยจะมีผลบังคับใช้หลังจากวันที่ 1 เม.ย.62 เป็นต้นไป โดยผลจากจัดสรรปริมาณโควตาใหม่ ทำให้ไทยได้รับการจัดสรรโควตาส่งออกเนื้อไก่และสัตว์ปีก 4 รายการไปอียูเพิ่มขึ้น
สำหรับสินค้าทั้ง 4 รายการ ได้แก่ เนื้อไก่ปรุงแต่ง หรือทำไว้ไม่ให้เสีย และไม่ปรุงสุก ได้รับการจัดสรร 340 ตัน/ปี ภาษีในโควตา 630 ยูโร/ตัน, สัตว์ปีกปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย ซึ่งมีสัดส่วนเนื้อหรือเครื่องในตั้งแต่ 57% ของน้ำหนักขึ้นไป และปรุงสุก ได้รับจัดสรร 60 ตัน/ปี ภาษีในโควตา 10.9%, สัตว์ปีกปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย ซึ่งมีสัดส่วนเนื้อหรือเครื่องในตั้งแต่ 25% จนถึงต่ำกว่า 57% ของน้ำหนัก ได้รับจัดสรร 60 ตัน/ปี ภาษีในโควตา 10.9% และเนื้อไก่ปรุงแต่ง หรือทำไว้ไม่ให้เสีย และปรุงสุก ได้รับจัดสรร 5,000 ตัน/ปี ภาษีในโควตา 8%
“เนื้อไก่และสัตว์ปีกของไทย ครองสัดส่วนอันดับ 1 และ 2 ของการนำเข้าของอียู แสดงให้เห็นว่าสินค้าของไทยเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับคุณภาพมาตรฐานจากประเทศคู่ค้า การปรับเพิ่มโควตานำเข้าครั้งนี้ เป็นโอกาสทองของผู้ส่งออกไทย ที่จะส่งออกไปอียูได้มากขึ้น และการนำเข้าเนื้อไก่ปรุงแต่ง ที่อียูเพิ่มโควตาให้เป็นครั้งแรกนั้น คาดว่า ไทยมีโอกาสที่จะคว้าส่วนแบ่งการนำเข้าได้เป็นอันดับต้นๆ เพราะเนื้อไก่และสัตว์ปีกของไทยเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมาอย่างยาวนาน”
ทั้งนี้ ในปี 61 อียูนำเข้าเนื้อไก่ปรุงแต่ง จากไทยเป็นอันดับ 1 มูลค่า 25,040 ล้านบาท คิดเป็น 73% ของการนำเข้าจากทั่วโลก และนำเข้าจากจีนเป็นอันดับ 2 สัดส่วน 19% ส่วนสัตว์ปีกปรุงแต่ง นำเข้าจากไทยเป็นอันดับ 2 มูลค่า 1,038 ล้านบาท คิดเป็น 41% ของการนำเข้าจากทั่วโลก โดยนำเข้าจากจีนเป็นอันดับ 1 สัดส่วน 58% และนำเข้าสัตว์ปีกปรุงแต่ง จากไทยเป็นอันดับที่ 2 มูลค่า 14 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของการนำเข้าจากทั่วโลก โดยนำเข้าจากจีนอันดับ 1 สัดส่วน 68%.