นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยกรุงเทพฯ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามามากถึงปีละ 20 ล้านคน และในอนาคตคาดว่าจะเพิ่มเป็น 30 ล้านคน จึงอยากให้รัฐบาลใหม่ดึงคนที่ดี มีหัวก้าวหน้าเข้ามาช่วยบริหารการท่องเที่ยว เนื่องจากเรายังขาดการโปรโมตเรื่องการท่องเที่ยวที่ดี เพื่อดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเข้ามาเพิ่มขึ้น
“การที่ภาครัฐมีการโปรโมตการท่องเที่ยวเมืองรองในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นเรื่องดี เพราะทำให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเข้าไปท่องเที่ยวเมืองรองกันมากขึ้น แต่จะให้ดีต้องมีการโปรโมตมากกว่านี้ เพราะไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ แหล่งช็อปปิ้ง และอาหารสตรีทฟู้ดที่หลากหลาย หากทำได้ นอกจากจะช่วยกระตุ้นด้านการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้ภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกมีการขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นด้วย”
นายณัฐกิตติ์ กล่าวต่อว่า สำหรับศูนย์การค้าในเครือของซีพีเอ็นที่ปัจจุบันมีอยู่ 32 สาขาในไทย และอีก 1 สาขาในประเทศมาเลเซีย มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากทั่วโลกเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30% ของจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทั้งหมด โดยสาขาที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้บริการมากสุด คือสมุย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% เป็นคนไทยแค่ 30% รองลงมาคือ พัทยา เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 50% คนไทย 50% ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์และภูเก็ต มี
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 30% คนไทย 70% เป็นต้น โดยเฉพาะศูนย์การค้าในประเทศไทยมีจำนวนลูกค้าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการรวมกันไม่ต่ำกว่าวันละ 1.3 ล้านคน
ทั้งนี้ จากการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าของซีพีเอ็นพบว่า ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก คือคนกรุงเทพฯ จะเข้ามาศูนย์การค้า เพื่อเน้นใช้บริการร้านอาหาร และออกกำลังกาย ขณะที่คนต่างจังหวัดเน้นใช้บริการร้านอาหารและซื้อสินค้ากลุ่มแก็ดเจ็ต และสมาร์ทโฟนเป็นหลัก ทำให้บริษัทต้องปรับแผน กลยุทธ์การทำตลาดใหม่ โดยจะทำตลาดตามความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคมากขึ้น และในแต่ละสาขาจะเพิ่มสัดส่วนที่เป็นอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงเอนเตอร์เทนเมนต์เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น และใช้เวลาอยู่นานขึ้น
“การทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยังถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญ เพราะทุกครั้งที่จัดอีเวนต์ใหญ่ๆจะช่วยกระตุ้นจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าแต่ละแห่งเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ ดังนั้น ปี 62 นี้บริษัท จึงใช้งบเกือบ 1,000 ล้านบาท จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทั้ง 32 ศูนย์ไม่ต่ำกว่า 2,000 อีเวนต์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยล่าสุดได้ใช้งบกว่า 180 ล้านบาท จัดแคมเปญดับร้อน “ซัมเมอร์ สปิริต 2019” (summer spirit 2019) พร้อมกันทั้ง 32 ศูนย์การค้าในเครือซีพีเอ็น จัดกิจกรรมรับซัมเมอร์ 33 วัน ตั้งแต่ วันที่ 29 มี.ค.-30 เม.ย.62 เพื่อตอกย้ำความเป็น ALL-IN-ONE & THE BEST SUMMER SHOPPING DESTINATION ของศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัลที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของผู้บริโภค ตั้งเป้าช่วงจัดงานจะมีลูกค้าทั้ง 32 สาขา เพิ่มขึ้น 15%.