นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายภารกิจหลักของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่การส่งเสริมการลงทุนให้เกิดขึ้น แต่คือการคัดท้ายทิศทางการลงทุนไม่ว่าจากในประเทศหรือต่างประเทศในทิศทางที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ที่จะยกระดับความสามารถแข่งขันของประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างสังคมที่เข้มแข็ง ซึ่งผลที่ออกมา 4 ปีให้หลังทางบีโอไอได้ทำหน้าที่ดังกล่าวอย่างเข้มแข็ง และได้ผลน่าพอใจ
ด้าน น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอได้รวบรวมยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายใต้รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นับจากปี 2558-2561 มีทั้งสิ้น 5,518 โครงการ เงินลงทุน 2.28 ล้านล้านบาท ซึ่งมีผลก่อให้เกิดประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจมูลค่าเฉลี่ยปีละประมาณ 400,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการขอรับการส่งเสริมใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย มีมูลค่า 1.49 ล้านล้านบาท คิดเป็น 65% ของมูลค่าการขอรับการส่งเสริมทั้งหมด และเป็นมูลค่าลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 1.24 ล้านล้านบาท คิดเป็น 54% ของมูลค่าลงทุนทั้งสิ้น
ขณะเดียวกันมาแยกดูยังพบด้วยว่า อยู่ในกลุ่ม 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ 128,198 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ 3,467 ล้านบาท ดิจิทัล 26,530 ล้านบาท อากาศยาน 12,504 ล้านบาท เทคโนโลยีชีวภาพ 54,640 ล้านบาท และการแพทย์ 31,057 ล้านบาท รวมทั้งอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายเดิม 1.36 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ยานยนต์และชิ้นส่วน 319,192 ล้านบาท เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 152,307 ล้านบาท เป็นต้น.