“พาณิชย์” เตรียมชง ครม. 22 ม.ค.นี้ พิจารณาบัญชีสินค้าและบริการควบคุม ปี 62 ชงเพิ่มและลดสินค้าและบริการควบคุมเหลือ 52 รายการ จากเดิม 54 รายการ จับตาคุม “ยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์” หรือไม่ หลังโรงพยาบาลเอกชนค้านหนัก หากไม่คุม “พาณิชย์” หมดสิทธิ์ใช้มาตรการดูแล
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า กรมการค้าภายใน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 22 ม.ค.นี้ พิจารณาทบทวนบัญชีสินค้าและบริการควบคุม ประจำปี 62 ตามที่ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 กำหนดให้ต้องทบทวนทุกปี โดยในปีนี้จะเสนอให้ ครม.พิจารณาบัญชีสินค้าและบริการควบคุม 52 รายการ ลดลงจากปี 61 ที่มี 54 รายการ
ทั้งนี้ การประชุม กกร. เมื่อวันที่ 9 ม.ค.62 มีมติให้เพิ่มสินค้าควบคุม 1 รายการ คือ ยาและเวชภัณฑ์ และถอดสินค้าที่อยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม 4 รายการออก ได้แก่ น้ำตาลทราย เยื่อกระดาษ เม็ดพลาสติก และแบตเตอรี่รถยนต์ ทำให้สินค้าในบัญชีควบคุมลดเหลือ 46 รายการ จากเดิม 49 รายการ และเพิ่มบริการทางการแพทย์ในบัญชีบริการควบคุมอีก 1 รายการ ทำให้มีบริการควบคุมรวม 6 รายการ
ทั้งนี้ สาเหตุที่ถอดน้ำตาลทรายออก เพราะปัจจุบัน ไทยปรับโครงสร้างราคาน้ำตาลทรายให้ลอยตัวตามกลไกตลาดโลก และขณะนี้ราคาลดลง ส่วนเยื่อกระดาษ เม็ดพลาสติก และแบตเตอรี่รถยนต์ เป็นการปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะมีผู้ผลิตหลายราย มีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ และไม่มีปัญหาด้านราคา
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เข้ามาเป็นสินค้าและบริการควบคุม เพราะได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าโรงพยาบาลเอกชนคิดค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ และค่ารักษาพยาบาลแพงเกินสมควร ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ จึงต้องนำเข้ามาเป็นสินค้าและบริการควบคุม เพื่อให้สามารถมีมาตรการเข้ามากำกับดูแลตามความเหมาะสม ซึ่งอาจไม่ใช่การกำหนดราคาขายยาและเวชภัณฑ์ และกำหนดค่าบริการทางการแพทย์ แต่จะใช้มาตรการใดกำกับดูแล ที่ประชุม กกร.ได้แต่งตั้งอนุกรรมการขึ้น 1 ชุด ประกอบด้วยตัวแทนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการที่จะนำมาใช้กำกับดูแล ซึ่งต้องเป็นมาตรการที่เป็นธรรมกับทั้งผู้บริโภค และผู้ประกอบการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ต้องเสนอการทบทวนบัญชีสินค้าและบริการควบคุมให้ ครม.พิจารณาภายในเดือน ม.ค.นี้ ไม่เช่นนั้น จะทำให้สินค้าและบริการควบคุมตกอยู่ในภาวะสุญญากาศ ไม่สามารถใช้มาตรการบริหารจัดการได้ เพราะบัญชีสินค้าและบริการควบคุมปี 61 หมดอายุแล้ว แต่ ครม.จะเห็นชอบกับการเสนอของกระทรวงพาณิชย์หรือไม่ อยู่ที่การพิจารณาของ ครม.หากเห็นชอบสินค้าและบริการควบคุมปี 62 จะเป็นไปตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
สำหรับรายการสินค้าและบริการควบคุม ที่คาดว่าจะมีปัญหา คือ ยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เพราะโรงพยาบาลเอกชนไม่เห็นด้วย โดยอ้างว่าโรงพยาบาลเอกชนต่างจากโรงพยาบาลรัฐที่มีงบประมาณสนับสนุน และยังต้องลงทุนเทคโนโลยี พัฒนาการให้บริการ ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาว่า ครม.จะเห็นชอบให้ยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เป็นสินค้าและบริการควบคุมหรือไม่ โดย ครม.อาจไม่เห็นชอบ ซึ่งจะทำให้กระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถใช้มาตรการใดๆในการกำกับดูแลได้เลย โดยที่ผ่านมามีเพียงกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้นที่เป็นผู้กำกับดูแลโดยตรง.