คนร.ใส่ดิสเบรก ขสมก.หัวทิ่ม หวั่นค่าโดยสารถมภาระเพิ่มให้ประชาชน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

คนร.ใส่ดิสเบรก ขสมก.หัวทิ่ม หวั่นค่าโดยสารถมภาระเพิ่มให้ประชาชน

Date Time: 18 ม.ค. 2562 09:01 น.

Summary

  • ขสมก.ถูกเบรกหัวทิ่ม คนร.สั่งทบทวนปรับขึ้นค่าโดยสารใหม่ หวั่นมีผลกระทบต่อภาระของประชาชน ขณะที่ไอแบงก์พ้นปากเหว ออกจากแผนฟื้นฟูสำเร็จ หลังทำกำไรพุ่ง 590 ล้านบาท

Latest

อัปเดต 5 กลยุทธ์ขายของ พิชิตใจคน Gen Z อยากรักษ์โลก แต่ของมันต้องมี แบรนด์รับมืออย่างไร?

ขสมก.ถูกเบรกหัวทิ่ม คนร.สั่งทบทวนปรับขึ้นค่าโดยสารใหม่ หวั่นมีผลกระทบต่อภาระของประชาชน ขณะที่ไอแบงก์พ้นปากเหว ออกจากแผนฟื้นฟูสำเร็จ หลังทำกำไรพุ่ง 590 ล้านบาท สูงกว่าแผน ด้านบอร์ดขนส่งทางบกกลาง เด้งรับนัดประชุมด่วน 18 ม.ค.นี้ ขณะที่ ขสมก.สั่งชะลอขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ 2,500 คัน

น.ส.ปิยวรรณ ล่ามกิจจา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้หารือเรื่องการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ตามกำหนดจะเริ่มวันที่ 21 ม.ค.นี้ โดย คนร.ได้ให้กรอบนโยบายกับ ขสมก.ไปทบทวนในเรื่องดังกล่าวว่า จะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง และให้พิจารณาถึงความเหมาะสมของช่วงเวลาที่จะปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารด้วย “คนร.ห่วงเรื่องการขึ้นค่าโดยสารของ ขสมก.ว่า จะมีผลกระทบต่อภาระของประชาชน จึงมอบนโยบายให้ประธาน ขสมก.ไปพิจารณา โดยให้ดูความเหมาะสม และผลกระทบต่างๆ ของการปรับขึ้นค่าโดยสาร ซึ่ง ขสมก.น่าจะกลับไปหารือกับกระทรวงคมนาคมให้ชัดเจนก่อนนำมาเสนอ คนร.ต่อไป”

ทั้งนี้ ขสมก.ได้รายงานความคืบหน้าโครงการรถโดยสารเอ็นจีวีด้วยว่า ปัจจุบันรับมอบรถโดยสารเอ็นจีวีมาแล้ว 300 คัน คาดว่าจะรับมอบส่วนที่เหลือ 189 คัน ได้ภายใน มี.ค.2562 และสามารถจัดหารถครบ 3,000 คัน ได้ภายในปี 2565 อย่างไรก็ตาม คนร.ได้มอบหมายให้ ขสมก.ไปจัดทำประมาณการด้านการเงินให้ชัดเจนว่า จะมีผลการดำเนินงานอย่างไร สำหรับการนำน้ำมันบี 20 มาใช้ คาดว่าจะดำเนินการได้ครบทุกคันในเดือน ก.พ.2562 นี้ ส่วนเรื่องการติดตั้งระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Ticket นั้น ยังมีความล่าช้าอยู่

นอกจากนี้ คนร.ยังมีมติให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ออกจากแผนฟื้นฟู เนื่องจากปัจจุบันฐานะทางการเงินของไอแบงก์มีความแข็งแกร่งแล้ว จากการเพิ่มทุนในช่วงปลายปี 2561 และปี 2561 ผลประกอบการของไอแบงก์มีกำไรสูงกว่าแผนงาน โดยมีกำไร 590 ล้านบาท แต่ยังมีระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Finance : NPF) สูงกว่าแผนเล็กน้อย ซึ่ง คนร.เห็นว่าไอแบงก์มีผลประกอบการที่ดี มีกำไร และมีการปรับปรุงระบบการทำงานซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในอดีต และสร้างความยั่งยืนในการประกอบกิจการของไอแบงก์ในอนาคตได้ จึงมีมติเห็นชอบให้ไอแบงก์ออกจากกลุ่มรัฐวิสาหกิจที่ต้องจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาองค์กร และมอบหมายให้กระทรวงการคลังกำกับดูแลไอแบงก์ให้สามารถดำเนินการตามแผนงานต่อไป

น.ส.ปิยวรรณ กล่าวว่า ส่วนบริษัท การ-บินไทย จำกัด (มหาชน) นั้น คนร.ได้มอบหมายให้การบินไทยเร่งจำหน่ายเครื่องบินที่ปลดระวาง และสร้างความชัดเจนถึงการดำเนินการร่วมกับบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด และบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งให้ดำเนินการตามแผนงานที่ได้นำเสนออย่างเคร่งครัด ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รายงานการดำเนินการตามแผนต่างๆ รวมทั้งนำส่งงบการเงินให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบครบถ้วนแล้ว

ด้านนายกฤชเทพ สิมลี รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง กล่าวว่า วันที่ 18 ม.ค.นี้ เวลา 11.00 น.จะมีประชุมด่วนคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เพื่อดำเนินการตามมติ คนร. ที่ขอให้กระทรวงคมนาคมชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ออกไปก่อน ดังนั้นคณะกรรมการฯ จะต้องประชุม เพื่อทบทวนมติ เนื่องจากมติเดิมคณะกรรมการฯเห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ทั้งระบบ ตั้งแต่ 21 ม.ค.2562 เป็นต้นไป “ประเด็นที่คณะกรรมการฯ ต้องทบทวนใหม่ คือ แนวทางการชะลอขึ้นค่าโดยสารว่า จะชะลอรถประเภทใดและชนิดใดบ้าง เพราะรถโดยสารสาธารณะมีหลายประเภท และหลายชนิด ไม่ใช่เฉพาะแค่รถเมล์ของ ขสมก.เท่านั้น ยังมีรถเมล์ร่วมบริการของเอกชน และรถทัวร์ร่วมบริการของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับรถเมล์เก่าของ ขสมก.คงต้องชะลอการขึ้นค่าโดยสารแน่นอนทั้งรถร้อนและรถเย็น ส่วนรถเมล์ใหม่อาจให้ขึ้นค่าโดยสารได้ ส่วนรถร่วม บขส. และ บขส. ต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง”

ขณะที่นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เผยว่า ในการประชุมบอร์ด ขสมก. ได้มีมติให้ ขสมก. ชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารรถเมล์เก่าทั้งรถเมล์ร้อนและปรับอากาศ จำนวนกว่า 2,500 คัน ออกไปก่อน จากเดิมที่มีกำหนดจะปรับราคาในวันที่ 21 ม.ค.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ