นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยถึงคำขอจดสิทธิบัตรกัญชา 13 คำขอ ที่เป็นการยื่นขอจดสารสกัดจากกัญชาและองค์ประกอบที่มีสารสกัดกัญชาเป็นส่วนผสม และภาคประชาสังคมต้องการให้ยกเลิกการยื่นจดทันทีว่า ขณะนี้ ยืนยันว่ากรมได้ใช้มาตรา 30 พ.ร.บ.สิทธิบัตร ดำเนินการปฏิเสธการขอจดไปแล้ว 3 คำขอ หลังจากที่ได้ประกาศโฆษณาและให้ผู้ยื่นขอจดชี้แจงแล้ว เพราะพิจารณาแล้วพบว่าคำขอดังกล่าวเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่มีขั้นการประดิษฐ์ หรือเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่มีความใหม่พอ แต่ผู้ยื่นจดยังสามารถชี้แจงใหม่ได้อีก รวมทั้งสามารถอุทธรณ์ และฟ้องศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้หากไม่พอใจการพิจารณา
นอกจากนี้ ยังได้ละทิ้งไปแล้ว 3 คำขอ แบ่งเป็น 2 คำขอ ละทิ้งก่อนการประกาศโฆษณา และอีก 1 คำขอ ละทิ้งหลังประกาศโฆษณา ส่วนที่เหลืออีก 7 คำขอนั้น แบ่งเป็น 1 คำขอที่ยื่นจดสารสกัดจากกัญชา และก่อนหน้านี้นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้ตนใช้อำนาจอธิบดีตามมาตรา 30 สั่งปฏิเสธคำขอ เพราะขัดกับมาตรา 9 (1) พ.ร.บ.สิทธิบัตรที่กำหนดว่า สารสกัดจากธรรมชาติไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ใช้
มาตรา 30 เพราะมีขั้นตอนตามกฎหมายที่ต้องดำเนินการหลายขั้นตอนก่อนจะมาถึงการปฏิเสธ และอีก 6 คำขอ ที่เป็นองค์ประกอบสารสกัดจากกัญชาเป็นส่วนผสม ซึ่งทั้ง 7 คำขอนี้ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับภาคประชาสังคม พิจารณาหาทางออกร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไร จะยกเลิกได้หรือไม่ โดยที่ไม่ขัดกับ พ.ร.บ.สิทธิบัตรของไทย และไม่ขัดกับความตกลงระหว่างประเทศ “กรมไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือเพิกเฉยไม่ดำเนินการ เพราะทราบดีว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนมีความเป็นห่วงและกังวลมาก ซึ่งจะร่วมกับภาคประชาสังคมหาทางออกให้ดีที่สุด และเป็นประโยชน์กับประเทศมากที่สุด โดยต้องหารือในข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และยังติดขัดอยู่”.